คอลัมน์หมายเลข 7 : รุกแก่งเทียม จ.นครนายก

View icon 650
วันที่ 4 มิ.ย. 2568 | 11.36 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีการร้องเรียน ปัญหาการรุกล้ำแก่งเทียม จังหวัดนครนายก ของผู้ประกอบการ จนถึงตอนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยให้เวลา 60 วัน ในการพิสูจน์สิทธิ์ และรื้อถอน ติดตามได้จากคอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้

สิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก รุกล้ำแก่งเทียม ระยะทาง 800 เมตร ในลำน้ำนครนายก ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก

โครงการนี้เป็นของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครนายก แบ่งเป็น 4 ช่วง งบประมาณราว 38 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2549-2558 เพื่อหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 

ก่อนถูกร้องเรียนผ่านชมรม STRONG-จิตพอเพียง ต้านทุจริต จังหวัดนครนายก เมื่อปี 2565 แม้จะได้รับการแก้ไขบางส่วน แต่ยังพบผู้ประกอบการ 18 คน ก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำ

นอกจากนี้ พบผู้ประกอบการบางคน ต่อท่อน้ำทิ้ง สิ่งปฏิกูล สร้างมลพิษให้สิ่งแวดล้อม 

คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบพบภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อปี 2553 พบสิ่งปลูกสร้างในน้ำแทบตลอดแนวแก่งเทียม กระทั่งได้รับการแก้ไข

เรื่องนี้ ป.ป.ช.ติดตามความคืบหน้า อย่างใกล้ชิด ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหา และกำหนดกรอบเวลา 60 วัน หากพบผู้ประกอบการคนใดมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ ต้องรื้อถอนทันที

ด้านผู้ประกอบการท่องเที่ยวยอมรับว่า มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำจริง ทำไปเพื่อความอยู่รอด หากต้องรื้อถอนก็ยินดี แต่ต้องบังคับใช้กฎหมายเหมือนกัน ไม่เลือกปฏิบัติ

ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เสนอให้รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบสิ่งรุกล้ำลำน้ำ จัดทำแผนที่อย่างละเอียด และบูรณาการทำงานร่วมกัน

หากพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลย อาจเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โทษสูงสุด จำคุก 10 ปี และหากมีพฤติกรรมเรียกรับสินบน โทษสูงสุด คือ จำคุกตลอดชีวิต

การแก้ไขปัญหารุกล้ำแก่งเทียม ต้องทำงานเชิงรุก บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด และไร้ทุจริต หากดำเนินการสำเร็จ จะกลายเป็นพื้นที่ตัวอย่างของจังหวัดนครนายก เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน