วันนี้ (4 มิ.ย. 68) จากกรณี น.ส.รุ่งนภา อายุ 49 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อาชีพเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.กาฬสินธุ์ ได้เอาภาพโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อถามชาวโลกโซเชียลว่า เป็นวัตถุชนิดใดไปฝังอยู่ที่เหงือกหลังฟันกรามซี่สุดท้ายด้านล่างซ้าย เป็นเหล็กที่คนทั่วไปไม่รู้จัก มีลักษณะโค้งงอมีรูอยู่ด้านหัว ส่วนปลายแหลม จนมีคนออกมาวิเคราะห์กันไปหลายทาง บางคนบอกว่าเป็นขอเบ็ดที่ น.ส.รุ่งนภา ได้กินไปก่อนหน้าจะมีอาการเจ็บ 3-4 วัน แต่ยังค้านกับความเป็นจริงที่หมอตรวจพบเหล็กดังกล่าวฝังแนบกับฟันกรามซี่สุดท้ายในลักษณะฝังเป็นแนวเดียวกันกับรากฟัน โดยมีความเป็นไปได้ยากที่เหล็กซึ่งมีความยาวกว่า 3 เซนติเมตร จะปักลงไปในแนวตรงซึ่งปากคนอ้าไม่พออย่างแน่นอน และบางกลุ่มบอกว่าโดนคุณไสยหรือไม่
ล่าสุด ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามพระครูปลัดวิชาญธัมโชโต เจ้าอาวาสพระพุทธบูชาป่าโคกปราสาท ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพระที่มีความรู้ด้านคุณไสย หรือไสยศาสตร์เป็นอย่างดี โดยเจ้าอาวาส เล่าว่าเท่าที่เห็นภาพถือว่าแปลก ถ้าจะพูดถึงไสยศาสตร์ ถ้าเป็นคุณไสยส่วนใหญ่จะเป็นตะปู , เส้นผม หรือหนังวัวหนังควาย ไม่ใช่เป็นของทันสมัยขนาดนี้ แต่วัตถุชนิดนี้ไม่น่าจะเสกเข้าได้ เท่าที่ดูไม่น่าจะเป็นขอเบ็ดจะเป็นของที่ติดไปกับอาหารสัตว์ต่าง ๆ มันก็แปลกดี แต่เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วนอกจากจะไม่เหมือนเบ็ดแล้ว มันไปเหมือนกับเข็มเครื่องมือแพทย์ คล้ายกับเข็มเย็บฟัน เป็นไปได้หรือไม่ที่หมอจะลืมไว้ตอนทำฟันหรือไม่
ขณะเดียวกัน การวิเคราะห์ดังกล่าวของพระครูปลัดวิชาญธัมโชโต ไปตรงกับข้อมูลที่ผู้สื่อข่าวได้รับจาก น.ส.รุ่งนภา ที่โทรศัพท์มาแจ้งกับผู้สื่อข่าวถึงความเป็นไปได้ที่สุดของเหล็กปริศนาที่ฝังอยู่ในเหงือก โดย น.ส.รุ่งนภา เล่าว่าหลังจากตกเป็นข่าวออกไป ได้มีคนที่รู้จักโทรมาเป็นจำนวนมาก ทุกคนก็ยังงงว่าเป็นเหล็กอะไร ตนในฐานะที่ทำงานอยู่ที่สถานพยาบาล จึงส่งภาพไปให้พี่พยาบาลแผนกผ่าตัดดู กระทั่งพยาบาลถามกลับมาว่า เคยทำฟันหรือไม่ ตนจึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าเคยไปผ่าฟันคุดที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเมื่อประมาณ 15 ปี ที่ผ่านมา เบื้องต้นเท่าที่คุยกับพยาบาล ครั้งนั้นหมอลืมเข็มเย็บไว้ในเหงือกอย่างแน่นอน
น.ส.รุ่งนภา เล่าอีกว่า ตอนแรกตนคิดว่าเป็นก้างหรือขอเบ็ดอย่างแน่นอน เพราะกินปลาดุกกับขนมจีนแล้วเจ็บคอ พอมาเรียบเรียงดูแล้ว การเจ็บคอน่าจะเกิดจากก้างปลาไปติดคอ แต่หมอตรวจหาไม่พบเพราะได้หลุดไปแล้ว ถึงขั้นเอกซเรย์จนมาพบเข็มโดยบังเอิญ อย่างไรก็ตามส่วนตัวยังติดใจว่า หมอลืมเข็มไว้ได้อย่างไร จะไปถามขอดูประวัติการรักษา แต่ตนไม่มีเวลา เพราะจะต้องเดินทางไปทำงานที่ จ.กาฬสินธุ์
