สนามข่าว 7 สี - คุณแม่คนหนึ่งข้องใจหลังลูกสาว 12 ขวบ ปกติก็แข็งแรงดี แต่หลังฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมด หรือ HPV ไป 2 เข็ม จู่ ๆ ลูกสาวก็ล้มป่วยหนัก และยังมาพบภายหลังว่าป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง จึงเข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
เรื่องนี้เปิดเผยโดย คุณเอ (นามสมมุติ) หรือคุณแม่ของน้องนักเรียนหญิง ป.5 อายุ 12 ขวบ ที่เล่าว่า ลูกสาวเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกกับทางโรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาฉีดให้
โดยเข็มแรก น้องก็ยังปกติ แต่พอฉีดเข็มที่ 2 ไปเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จู่ ๆ ก็เริ่มผิดปกติ มีประจำเดือน 3 ครั้งในรอบหนึ่งเดือน มีเลือดออกตามไรฟัน และยังปวดตามข้อและกระดูก กระทั่ง 28 มีนาคม ลูกสาวก็เริ่มแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตัวซีดเหลือง จึงพาไปคลินิกใกล้บ้าน หมอตรวจพบเกร็ดเลือดต่ำ
ก่อนแม่ตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลแรก หมอให้เลือด 2 ถุง และนอนรักษาตัว 4 วัน แต่ค่าเลือดก็ไม่ขึ้น จน 1 เมษายน น้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลที่ 2 หมอเจาะไขสันหลังไปตรวจ พบเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด และให้เลือดเพิ่ม
อยู่รักษาตัวจน 7 เมษายน หมอทำซีทีสแกน พบเลือดออกในสมองหลายจุด โดยเฉพาะก้านสมอง ก่อนจะเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู จน 17 เมษายน ผลเลือดออก ก็พบว่าป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE
จากนั้น 22 เมษายน หมอให้น้องออกจาก ICU พักฟื้นที่ห้องปกติ ก็ดูแลรักษาตามรอยโรค จนตอนนี้ 2 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล ที่สำคัญหมอยังแนะนำให้ไปทำบัตรคนพิการ
ถ้ารอดชีวิตน้องอาจช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงอยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยประสานทำเรื่องให้กระจ่าง กรณีนี้เกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกหรือไม่
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ก็รับเรื่อง พร้อมประสาน สสจ.นนทบุรี และ สพฐ. ขอข้อมูลสุขภาพเด็ก เพื่อให้หมอใช้ประกอบการวินิจฉัยโรค รวมถึงมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วย 5,000 บาท