เวลา 14.30 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทรงเปิดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "เทคโนโลยีเกษตรกรรมก้าวหน้า ส่งเสริมการทำนายุคใหม่ สืบสานศิลปาชีพร่วมสมัย ชาวนาไทยยั่งยืน" เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีต่อกิจการด้านข้าวและชาวนาไทย, ให้ประชาชนรำลึกถึงความสำคัญของข้าว, เชิดชูเกียรติชาวนาไทย, และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ยกระดับคุณภาพผลผลิตให้สนองความต้องการของตลาด การผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกษตรกรรับทราบ และนำไปประยุกต์ใช้แบบบูรณาการ
คณะรัฐมนตรี มีมติให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็น "วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ" เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรกิจการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และทรงหว่านข้าวในแปลงนา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงกำหนดจัดงานขึ้นทุกปี
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการด้านข้าวและชาวนาไทย, นิทรรศการวิชาการ, การเชิดชูเกียรติชาวนา, และวัฒนธรรมประเพณีด้านข้าว อาทิ สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ นำเสนอ "เทคโนโลยีการทำนาลดโลกร้อน" เนื่องจากปัญหาโลกร้อนและฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวโยงกับภาคการเกษตร การผลิตข้าวทัังนาปี-นาปรัง กว่า 70 ล้านไร่ ต้องปรับตัวเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม "การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง" เป็นวิธีที่สะดวก ประหยัด มีประสิทธิภาพ สามารถลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้กว่าร้อยละ 30 และการจัดการฟางข้าวโดยใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย ช่วยลดการเกิดฝุ่น PM2.5, นิทรรศการ "การใช้เทคโนโลยีและ Al เพื่อการพัฒนาการเกษตรข้าวอย่างยั่งยืน" ของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นำเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Chatbot น้องหอมมะลิ ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้ข้อมูลด้านการปลูก การดูแล การให้ปุ๋ย การรับมือกับศัตรูพืช ด้วยข้อมูลของกรมการข้าว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการเกษตร, Application ALLRice ที่ปรึกษาชาวนาไทย ให้ความรู้ด้านข้าวที่จำเป็น เช่น ปฏิทินการปลูก สถานการณ์ด้านน้ำ สภาพดินฟ้าอากาศ ราคาข้าวและราคาเมล็ดพันธุ์ ส่วนเทคโนโลยีปลูกข้าวแบบครบวงจรด้วยฟิล์ม PLA คือฟิล์มคลุมดินด้วยวัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เป็นการพัฒนานวัตกรรม ของทีมนักวิจัยระดับปริญญาเอก และผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และหน่วยงานไทย เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ช่วยควบคุมวัชพืช ประหยัดน้ำและปุ๋ย ย่อยสลายได้หมด ช่วยปรับอุณหภูมิดิน และลดสารเคมี, นิทรรศการ "การเพิ่มมูลค่าข้าว" ของกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว สนับสนุนการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวทุกส่วน เช่น เมล็ดทำขนมและเครื่องดื่ม, ใบทำชา, รำ ทำเครื่องสำอาง, และตอซังทำฟางอัดก้อน เป็นอาหารสัตว์ และการส่งเสริมการตลาดข้าว Rice Business Matching แพลตฟอร์มซื้อ-ขายข้าวออนไลน์
ภายในงาน ยังมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน นำเสนอโครงการ และนวัตกรรมการเกษตร เพื่อส่งเสริมพัฒนาเกษตรกรไทย ผู้สนใจเข้าชมงานได้ถึงวันที่ 7 มิถุนายนนี้
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำคณะกรรมการ และผู้บริหาร โรงเรียนอนุบาลศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานการจัดการศึกษาของโรงเรียนฯ ซึ่งเปิดดำเนินการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี 2532 ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ให้เด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งเป็นบุตรหลานของบุคลากรศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ และประชาชน ได้รับการศึกษาที่ดี โดยเป็นโรงเรียนเอกชน เปิดสอนชั้นอนุบาล ปัจจุบัน อยู่ภายใต้การดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ในปีการศึกษา 2568 มีนักเรียน 124 คน จัดการเรียนเพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างมีคุณภาพรอบด้านแบบบูรณาการ