วันนี้ (8 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สู้มาสู้กลับไม่โกง หลังแม่ค้าขายเนื้อหมูวัย 56 ปี มักจะถูกเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสุวินทวงศ์ ร้องขอให้ช่วยเหลือเวลามีงูเหลือมหรืองูต่าง ๆ เลื้อยเข้ามาซุกอยู่ในตลาด ล่าสุดปีนขึ้นถังน้ำแข็ง ทำเชือกเป็นบ่วงคล้องคอจับงูเหลือมยาว 4 เมตร ก่อนใส่กระสอบขึ้นรถจักรยานยนต์นำไปปล่อยในป่า ขนาดผู้ชายแท้ ๆ ตอนจะเอางูใส่กระสอบยังวิ่งหนี
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวมีแม่ค้าภายในตลาดสุวินทวงศ์ ได้บันทึกคลิปวิดีโอเอาไว้ พร้อมเสียงให้กำลังใจแม่ค้าขายเนื้อหมูสดใส่เสื้อสีแดงที่กำลังจับงูเหลือมเลื้อยเข้ามาซุกอยู่หลังตลาด ซึ่งแม่ค้าคนดังกล่าวไม่กลัวงู พยายามให้ลูกน้องซึ่งเป็นผู้ชายอ้าปากถุงกระสอบ แล้วเอาหัวเอาหัวงูเหลือมลงกระสอบ แต่ด้วยความกลัวของลูกน้องจึงทิ้งกระสอบ แล้วกระโดดขึ้นบนถังน้ำแข็ง ก่อนจะดูแม่ค้าคนดังกล่าวนำงูเหลือมใส่กระสอบเพียงคนเดียว ท่ามกลางเสียงหัวเราะและให้กำลังใจที่ช่วยจับงูเหลือมออกมาจากตลาดได้สำเร็จ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันนี้ ที่บริเวณด้านหลังตลาดสดสุวินทวงศ์ ม.1 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
จากการสอบถาม นางศรีนวลจันทร์ เอี่ยมศิริ หรือ เจ้จันทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดว่าเป็นมือจับงูมือหนึ่งของตลาด บอกว่า งูตัวล่าสุดที่จับคืองูเหลือม คาดว่าน่าจะเข้ามากินหนู แต่เลื้อยมาซุกอยู่ใต้ถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ ตอนจับได้นั้นวัดความยาวได้ประมาณ 4 เมตร น้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ตอนแรกตนเองขายหมูอยู่ที่ร้าน แต่มีแม่ค้าร้านผักวิ่งมาตามให้ไปช่วยจับงู เพราะในตลาดรู้ว่าตนเองสามารถจับงูได้ เมื่อไปถึงก็พบว่างูซุกอยู่ จึงใช้เชือกทำเป็นบ่วงคล้อง ก่อนที่ตนเองจะปีนขึ้นไปอยู่บนถังน้ำแข็งที่งูซุกซ่อนอยู่
จากนั้นได้ให้ลูกน้องซึ่งเป็นแรงงานชาวเมียนมาใช้ไม้แหย่งูเหลือมให้โผล่หัวออกมา ส่วนตนก็ค่อย ๆ หย่อนเชือกคล้องเข้าที่หัว แล้วกระตุกดึงงูออกมาจากถังน้ำแข็งได้สำเร็จ แต่ก็ต้องทุลักทุเลตอนนำงูเหลือมยัดใส่กระสอบ เนื่องจากแรงงานชาวเมียนมากลัวงู พอให้อ้าปากกระสอบเพื่อจะนำงูเหลือมใส่ลงไป หนุ่มแรงงานชาวเมียนมาก็ทิ้งกระสอบเพราะความกลัว แล้ววิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนถังน้ำแข็ง ตนจึงต้องจับคนเดียว และนำงูเหลือมตัวดังกล่าวใส่กระสอบเอง ก่อนนำขึ้นรถจักรยานยนต์นำไปปล่อยป่าท้ายหมู่บ้าน
นางศรีนวลจันทร์ บอกด้วยง่า ตนไม่กลัวงู “สู้มาก็สู้กลับไม่โกง” ซึ่งตอนแรก ๆ ตนก็จับงูด้วยมือเปล่า ใช้กระสอบดักให้งูเลื้อยเข้าไป ก่อนจะรีบรวบผูกปากกระสอบแล้วนำไปปล่อย ทำให้ชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้าในตลาดทราบกันดี ว่ามีงูเลื้อยเข้ามา หรือมีหมามีแมวที่ติดท่อติดกำแพงก็จะตามตนเองไปช่วยเหลือ
