ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีประกาศอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เรื่อง ปิดการให้บริการด้านการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยมีใจความว่า ด้วยอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำขุ่น กับ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ติดพรมแดนประเทศกัมพูชาเป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร และจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 เวลา 05.45 น. เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องบก ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พิจารณาแล้ว เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวผามออีแดงอยู่ในพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และอาจมีความเชื่อมโยงลุกลามของเหตุการณ์ตลอดแนวชายแดน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชน จึงขอประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวผามออีแดง อุทยาน แห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ประกาศ ณ วันที่ 28 พ.ค. 68
ล่าสุดวันนี้ (8 มิ.ย. 68) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มีเจ้าหน้าที่ทหาร และ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ซี่งเจ้าหน้าที่อุทยานกว่า 100 นาย กระจายปฏิบัติหน้าที่ ตามจุดต่าง ๆ โดยบริเวณหน้าปากทางเข้าอุทยานฯ จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานปฏิบัติหน้าที่อยู่จำนวน 6 นาย ในห้วงกลางวัน และจะมีอีก 1 ชุดปฏิบัติหน้าที่ในห้วงเวลากลางคืน ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าอุทยานฯ มีการติดป้ายแจ้งให้กับประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องการปิดการให้บริการอุทยานฯ
สำหรับบรรยากาศการเดินทางเข้าออกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องการปิดอุทยานฯ เดินทางมา แต่ก็ต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถอนุญาตให้รถประชาชนทั่วไปเดินทางเข้าไปได้ จะมีแค่รถของกำลังทหาร และรถที่บรรทุกยางรถยนต์มาทำบังเกอร์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทหาร นำรถหกล้อมาบรรทุกยางรถยนต์เพื่อนำขึ้นไปยังผามออีแดง หรือแม้กระทั่งญาติพี่น้องที่ต้องการนำสิ่งของมาฝากให้กับทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่ ยังต้องฝากไว้ที่บริเวณแห่งนี้
ทั้งนี้ สำหรับการเปิดให้บริการด้านการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารนั้น ยังไม่มีกำหนดที่แน่ชัดว่าจะเปิดให้บริการอีกเมื่อไหร่ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ในอนาคตต่อไป
