เปิด 6 มาตรการ เครือข่ายประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน เรียกร้อง “นายกรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรี” ปกป้องรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
วันนี้ (10 มิ.ย.68) กลุ่มมวลชนรวมตัวกัน นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล และเครือข่ายอดีตกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่อราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ปกป้องอธิปไตย และมีท่าทีชัดเจนต่อการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.68
สำหรับ 6 มาตรการ ที่กลุ่มมวลชนเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีดำเนินการ ได้แก่
มาตรการที่ 1 รัฐบาลไทยต้องประกาศย้ำไม่ยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และไม่ยอมรับการที่กัมพูชาจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่ว่ากรณีใดใด
มาตรการที่ 2 รัฐบาลต้องประท้วงอย่างเป็นทางการทั้งกัมพูชาและสากลว่า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต ศาลาตรีมุข เป็นดินแดนอธิปไตยของไทย
มาตรการที่ 3 สั่งการและมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกเอ็มโอยู 2543 เพื่อยกเลิกแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่ทำขึ้นโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว
มาตรการที่ 4 สั่งการและมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกเอ็มโอยู 2544 เพื่อยกเลิกเส้นไหล่ทวีปที่ลุกลามอธิปไตยน่านน้ำไทย
มาตรการที่ 5 สั่งการและมีมติเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับราชอาณาจักรไทยก่อนการเจรจา JBC 14 มิถุนายนนี้ ทั้งยังคงหรือลดเวลาในการเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเฉพาะในพื้นที่บ่อนกาสิโน โดยไม่เพียงให้ได้บรรลุผลตามมาตรการที่ 1 ถึง 4 แต่ต้องต่อรองให้หยุดการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและธุรกิจในกัมพูชาที่ทำร้ายประเทศไทยด้วย ซึ่งรวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ พนันออนไลน์ การค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติด รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่า การฟอกเงิน
หากกดดันและเจรจาไม่เป็นผล ต้องยกระดับในการยกเลิกการส่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับกัมพูชา เช่น ตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน
และมาตรการที่ 6 หากสถานการณ์ระหว่างไทยกัมพูชาเร็วร้ายลงจากมาตรการไม่เพียงพอ หรือการเจรจาไม่เป็นผล ให้กองทัพไทยประกาศกฎอัยการศึกเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทับซ้อน
ขณะที่การสัญจรบนถนนพิษณุโลก ยังเปิดปกติ แต่มีตำรวจ นำรถตู้มาจอดเป็นแนว