หนุ่มกระหน่ำแทงแม่ค้าร้านชำ 31 แผล ก่อนขี่รถ จยย. ถือมีดไปมอบตัว อ้างบันดาลโทสะ คบกันเป็นแฟนมานาน แต่เพิ่งรู้ฝ่ายหญิงมีครอบครัวแล้ว ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ด้านสามีผู้ตายรู้ข่าวถึงกับช็อก
วันนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังทอง พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา เข้าตรวจสอบสถานที่พบศพผู้หญิงเสียชีวิตอภายในบ้าน ซึ่งอยู่ติดกับร้านขายของชำในพื้นที่ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ทราบชื่อผู้ตายคือนางรัชดา หรือ มด อายุ 44 ปี แม่ค้าร้านขายของชำ ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ตายถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมบริเวณด้านหลัง 30 แผล และบริเวณใต้ราวนม 1 แผล รวม 31 แผล
นายจุติ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นเจ้าของบ้าน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ในบ้าน เตรียมจะออกไปตลาด ผู้ตายได้วิ่งหนีเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือแล้วล้มลง และมีชายคนหนึ่งวิ่งตามเข้ามาใช้มีดจวงแทง ตนตะโกนห้ามปรามให้หยุด ชายคนนั้นหันมามองแล้วจะเข้าทำร้ายตน จึงต้องวิ่งหลบหนี คนร้ายตามไม่ทันก็กลับมาจ้วงแทงผู้ตายต่ออีกหลายครั้ง ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ตายได้ เพราะตอนนั้นผู้ตายยังร้องขอความช่วยเหลืออยู่ แต่ผู้ก่อเหตุตัวใหญ่กว่าและมีอาวุธมีด
ด้าน นายคุณากร เผยว่า ผู้ตายเป็นนักร้องประจำวงตั้งแต่เริ่มทำวงเกือบ 20 ปีแล้ว โดยผู้ตายเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน เฮฮา ดูแลน้องๆ ตามปกติเวลาจะไปทำงาน ตนจะมารับผู้ตายพร้อมลูกสาว และให้ลูกสาวของผู้ตายไปเล่นกับลูกสาวของตนที่บ้าน แล้วค่อยออกไปทำงานกัน ผู้ตายจึงเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่รู้จัก สงสัยว่าเพราะอะไรจึงมาฆ่า เพราะผู้ตายเป็นคนดี ช่วยเหลือเกื้อกูลน้องๆ ในวงทุกอย่าง
ต่อมา นายสง่า สามีและลูกชายของผู้ตายเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ ด้วยอาการตื่นตกใจ เสียใจ และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับพูดออกมาว่าไม่ใช่เรื่องจริง ทำไมเกิดเรื่องนี้ขึ้น และหลังจากสามีของผู้ตายไปดูสภาพศพถึงกับเป็นลม กู้ภัยต้องช่วยกันปฐมพยาบาล และต้องมีคนคอยอยู่ดูแลใกล้ๆ ตลอดเวลา ส่วนศพผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กู้ภัยนำส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ก่อนให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
จากนั้นเวลาประมาณ 10.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.วังทอง และพนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายวุฒิพงษ์ อายุ 50 ปี ซึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์และถือมีดมามอบตัวที่ สภ.วังทอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยขณะนั้นมีสามีและลูก รวมถึงญาติพี่น้องของผู้ตายยังรออยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งทันทีที่ตำรวจควบคุมตัวลงมา สามีและลูกชายของผู้ตายรวมถึงญาติๆ ได้บุกเข้าไปหาผู้ก่อเหตุ แต่ตำรวจและชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ช่วยกันห้ามเอาไว้ โดยนายวุฒิพงษ์ ได้ชี้จุดที่เข้าทำร้ายนางรัชดาภายในร้านขายของชำ และภายในบ้านจุดที่พบศพ รวมถึงเส้นทางที่ใช้หลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเบื้องต้น นายวุฒิพงษ์ อ้างว่าตนเองคบหากับนางรัชดามานานหลายปี และเพิ่งรู้ว่าผู้ตายมีครอบครัวแล้ว ทำให้เกิดความเครียดและบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมและเก็บรวบรวมหาพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป