ตำรวจ 191 บุกทลายสำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเวียดนาม เช่าบ้านหรูตั้งฐานในประเทศไทย โทรหลอกเหยื่อชาวเวียดนาม
วันนี้ ( 10 มิ.ย.68 ) ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษหรือ 191 นำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 96/283 (ใช้เป็นสำนักงาน) 100/121 (ใช้เป็นที่พัก) ภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร หลังสืบทราบว่าเป็นสำนักงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเวียดนาม ที่มาตั้งฐานในประเทศไทย
พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีชาวบ้านได้แจ้งเบาะแสมาว่า มีกลุ่มชาวต่างชาติรวมตัวมั่วสุม ส่งเสียงดังในเวลากลางคืน ทำตัวน่าสงสัย อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายค้นในครั้งนี้ พบว่า มีชาวเวียดนามทั้งหมด 27 คน เป็นผู้ชาย 22 คน และหญิงอีก 5 คน พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ 45 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 118 เครื่อง, เคตามีน 5 กรัม, รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน
ทั้งหมดเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้วิธีการรูปแบบโรแมนสแกม ในการหลอกเหยื่อชาวเวียดนามด้วยกัน คือใช้โปรไฟล์ของผู้ชายและผู้หญิงหน้าตาดีหลอกลวงให้หลงเชื่อตายใจ ให้โอนเงิน โดยแก๊งนี้มาเช่าบ้านทั้ง 2 หลัง ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2567 จากนั้นก็เริ่มมีชาวเวียดนามเข้ามาพักอาศัยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ได้หลอกเหยื่อสร้างความเสียหายกว่า 3 หมื่นล้านดอง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 39 ล้านบาท
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทุกรายสมัครใจมาทำงานโดยไม่ได้ถูกบังคับ โดยมีรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน หากหลอกลวงเหยื่อได้ก็จะมีค่าคอมมิชชั่น ทำยอดได้ก็จะมีรายได้ถึง 25,000 บาท ต่อเดือน
เบื้องต้นได้ดำเนินคดีในข้อหาเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในจำนวนนั้นมี 2 คน ที่ไม่มีเอกสารเข้าราชอาณาจักร จึงถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนว่ามีการหลอกลวงคนไทยด้วยหรือไม่ หากพบข้อมูลก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ทีมข่าวสอบถามชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า ชาวเวียดนามกลุ่มนี้เพิ่งเข้ามาพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตอนแรกคิดว่ามาเช่าพักเพื่อเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทั่งมาถูกจับจึงรู้ว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องใกล้ตัวเช่นนี้