ยึดยาเสียสาวกว่า 1.7แสนเม็ด จับเครือข่าย หมอแอร์ แอบอ้างคลินิก สวมชื่อคนตายโกงยาเสียสาว

ยึดยาเสียสาวกว่า 1.7แสนเม็ด จับเครือข่าย หมอแอร์ แอบอ้างคลินิก สวมชื่อคนตายโกงยาเสียสาว

View icon 251
วันที่ 11 มิ.ย. 2568 | 12.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ยึดยาเสียสาวกว่า 1.7แสนเม็ด จับเครือข่าย "หมอแอร์" แอบอ้างคลินิก สวมชื่อคนตายโกงยาเสียสาว พบพิรุธจากการสั่งซื้อยาออกฤทธิ์ประเภท 2 มากผิดปกติ

จากกรณีตำรวจ ปส. จับมือ อย.บุกจับ พ.ต.อ.หญิง อัญชุลี หรือ หมอแอร์ ตำแหน่งนายแพทย์ (สบ5) กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว รพ.ตำรวจ กับพวกรวม 5 คน ข้อหาร่วมกันค้ายาเสียสาว หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และ 4 บุกค้นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 9 จุด รวมถึงแฟลตตำรวจ ในซอยพหลโยธิน 6 พบของกลาง รวมกว่า 170,200 เม็ด พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 400 ล้านบาท ตำรวจคุมหมอแอร์ สอบเครียด พบช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สั่งยาให้ผู้เสียชีวิต มากถึง 370 คน

ล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย. 68) พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร ,พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. พลตำรวจตรี นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายโกงยาเสียสาว รวม 450 ล้าน

โดย พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร. ได้รับการประสานงานจากทาง อย. เมื่อเดือน ก.ย.67 ว่าพบการสั่งซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 จึงมอบหมายให้ตำรวจ ปส. ดำเนินการ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 5 คน จับกุมในที่เกิดเหตุ 2 คน รวมเป็น 7 คน พร้อมของกลาง

พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า ทางตำรวจ ปส. ได้รับการสานงานและได้รับการร้องทุกข์จาก อย. เกี่ยวกับพฤติกรรมการทำความผิดในกลุ่มนี้ ตั้งแต่ได้รับการประสานเมื่อเดือน ก.ย. 67 จึงรวบรวมหลักฐานมาโดยตลอด รวมไปถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งพฤติการณ์จะเห็นตั้งแต่การสั่งซื้อให้นายทุนไปจำหน่าย แล้วนำไปขายให้ผู้ค้ารายย่อย จึงดำเนินการสอบสวนจนเห็นการกระทำความผิดตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ มีพยานหลักฐานที่ได้จากคดีนี้ชัดเจนจนสามารถขอศาลออกหมายจับ

สำหรับกรณีที่ผู้ต้องหาขบวนการนี้เป็นตำรวจ ทาง ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำว่า หากมีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ขอให้มั่นใจว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะเป็นใคร เราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้านพลตำรวจตรี นพสิทธิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก อย. มีข้อสงสัยว่า มีการนำยาออกฤทธิ์ประเภท 2 ออกจากระบบ ซึ่งทาง ตำรวจปส. ไปเฝ้าติดตามจนทราบว่า มีการนำยาออกนอกระบบจริง และนำไปไว้ที่แฟลตตำรวจ ย่านพญาไท โดยจะมีลูกน้องของหมอคนดังกล่าวทำหน้าที่เฝ้า และนำส่งอะพาร์ตเม้นต์ย่านวังทองหลาง ซึ่งมีผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 เป็นผู้ดูแลอยู่ มีหน้าที่ในการเก็บรักษาและจำหน่ายยาให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งตำรวจ ปส. ได้ติดตามต่อว่า ได้มีการไปขายให้ผู้ต้องหาที่ 5 นำเข้าไปในพื้นที่นครปฐม และมีการจับกุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสามารถจับผู้ต้องหาได้ 3 คน เป็นการตรวจยึดยาออกฤทธิ์ประเภท 2 เป็นการออกหมายในคดี 5 หมาย และออกหมายค้น 9 หมาย

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และข้อหา สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่สมคบกันแล้ว

ด้านนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องของสารควบคุมต่างๆ ที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ ซึ่งสำนักงาน อย. ได้แจ้งข้อมูลพบการซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ทั้ง อัลปราโซแลม ซึ่งเป็นยาที่ทำให้คลายเครียด หรือใช้ในเรื่องการรักษายาซึมเศร้า

ในปี 2565 มี 5 คลินิก สั่งซื้อตัวยาดังกล่าวเข้ามาหลายประเภท ยอดสั่งซื้อประมาณ 1 ล้าน ในปี 2566 เพิ่มเป็น 7 คลินิก ยอดสั่งซื้อมากกว่า ล้าน ในปี 2567 เพิ่มเป็น 11 คลินิก ยอดสั่งซื้อ 7-8 ล้าน และปี 68 มีการขยายตัวเพิ่มเป็น 12 คลินิก อย. จึงตั้งข้อสังเกต ว่ามีการเกี่ยวข้องกับคุณหมอที่รักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับจิตเวช จึงมีการขออนุญาตซื้อยาดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่พบความผิดปกติคือมีการสั่งซื้อยาจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่า รพ. จึงมีการเตรียมขยายผลว่าเกิดอะไรขึ้น

ทั้งนี้ทาง อย. จะได้รับการรายงานจากคลินิกกลับมาว่า ทางคลินิกได้ขายยาให้ใคร ซึ่งการรายงานมีบัญชีรายชื่อของผู้ป่วยแฝงไปด้วยคนเสียชีวิต มาสวมชื่อซื้อยา พบว่า 12 คลินิก มีการซื้อยาแตกต่างกันไปแล้วนำยามาอนุมัติการสั่งซื้อมาที่ อย. ซึ่ง อย.จะส่งทางไปรษณีย์ และพบว่า คนที่ชำระเงินเป็นหมอแอร์เป็นคนชำระเงินเพียงผู้เดียว หลังจากนี้จะเป็นเรื่องการนำไปส่งคลินิก โดยจะรวบรวมให้ไรเดอร์ไปรับยาตามจุดต่างๆ เช่น แฟลตตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักเก็บยา

อย่างไรก็ตาม แนวทางหลังจากนี้ อย. จะร่วมกับ ตำรวจ ปส. รวมทั้งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพในการตรวจคลินิกดังกล่าวเพื่อขยายผลในเรื่องนี้ต่อไป