ห้องข่าวภาคเที่ยง - ถ้าเป็นคนต่างชาติ จะมาขายของในไทย ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ถ้าขออนุญาตอย่างถูกต้อง แต่กรณีนี้ไลฟ์สดขายสินค้ากันฉ่ำ ๆ ไม่มีการขออนุญาตใด ๆ แล้วบอกว่าขายเฉพาะ VIP เท่านั้น งานนี้เลยต้องเชิญตัวไปดำเนินคดีกันแบบ VIP
ไลฟ์สดแบบนี้ถามว่าจริง ๆ แล้วผิดไหม ไม่ผิดนะ แต่ผิดที่ไม่มีการขออนุญาตเข้ามาประกอบกิจการในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะมาขายของโดยไม่เสียภาษีให้ไทยแม้แต่บาทเดียวแบบนี้ไม่ได้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงแฝงตัวสืบสวน จนไปพบการกระทำผิดแบบคาหนังคาเขา เข้าจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดได้ ภายในห้างฯ ดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดาภิเษก
ของกลางมีสินค้าหลากหลายยี่ห้อ หลายแบรนด์เคยเห็น แต่บางแบรนด์ก็ไม่คุ้นตา อย่างแชมพูขิง ขวดละ 580 บาท ที่เป็นหนึ่งในสินค้าขายดี เลยต้องประสาน อย.ช่วยตรวจสอบ ผลก็คือ ไม่มีเลข อย. และยังปลอมเลขทะเบียนฉลากสินค้าอีก จึงต้องยึดไปตรวจสอบ เพื่อรอแจ้งข้อหาอีกที
พันตำรวจเอก พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการ ตม.1 เปิดเผยว่า ภายในร้านมีทั้งคนไทย และชาวจีน กำลังไลฟ์สดขายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โดยมีการนำอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน มาเรียกลูกค้า จนมีชาวจีนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าไทย เข้าไปอุดหนุนกันเป็นจำนวนมาก จากการประเมินคาดว่ามีเงินหมุนเวียนมากถึงกว่า 30 ล้านบาทต่อวัน เบื้องต้นจึงดำเนินคดีกับชาวจีน ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหากับเจ้าของ เป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้ สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดี
ส่วนคดีนี้เป็นของตำรวจท่องเที่ยว ไปจับกุมคนนำเที่ยวชาวจีน ที่มีลักษณะคล้ายทัวร์ศูนย์เหรียญ พฤติการณ์เริ่มจากจะรับงานดูแลลูกค้า ผ่านแอปฯ ตัวหนึ่งของจีน จากนั้นจะติดต่อนัดหมายผ่านทางแอปฯ WECHAT เพื่อจะจัดหาไกด์ชาวจีนพาไปท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ อย่างเช่น วัดพระแก้ว และพาไปกินอาหารตามร้านที่ลูกค้าอยากไป
ตำรวจท่องเที่ยว บอกว่า แม้ทัวร์เถื่อน VVIP จะพักในโรงแรมไทย เข้าร้านค้า และกินกับร้านอาหารไทย แต่เม็ดเงินส่วนใหญ่จะหมุนเวียนในกลุ่มคนจีน ไม่มีการเสียภาษีเข้าไทย ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเช่นกัน อีกทั้งเป็นการนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย