ที่ห้องประชุม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการ และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้นำชุมชนที่ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐาน การพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนตามแนวทางโครงการหลวง ประจำปี 2567 ซึ่่งมูลนิธิโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมพัฒนาเกณฑ์ชี้วัดกิจกรรม การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ครอบคลุม 5 มิติ รวม 28 ตัวชี้วัด มีชุมชนเข้ารับการประเมิน 11 แห่ง อยู่ในระดับดีเยี่ยม 1 แห่ง ได้แก่ ชุมชนบ้านปางพริก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า, ระดับดีมาก 7 แห่ง และระดับดี 3 แห่ง
และในปี 2568 อยู่ระหว่างการตรวจประเมิน ในพื้นที่มูลนิธิโครงการหลวง 4 แห่ง และโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 7 แห่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นชุมชนตัวอย่างการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ลำดับที่ 13 ว่าด้วยเรื่องการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นเป้าหมายที่ประเทศไทยจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเหลือร้อยละ 20-25 ภายในปี 2573 ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
จากนั้น เป็นประธานการประชุมมูลนิธิโครงการหลวง ประจำเดือนมิถุนายน 2568 ร่วมกับคณะทำงานอาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานแบบบูรณาการตามแผนปฏิบัติงานประจำปี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม ยึดแนวทาง "สืบสาน รักษา ต่อยอด" มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างประโยชน์สุขที่ยั่งยืนให้แก่ประชาชน ตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ช่วงบ่าย ไปติดตามการก่อสร้างบ่อพักน้ำและอาคารบังคับน้ำ รวมถึงพื้นที่ก่อสร้างอาคารแปรรูปปลาเรนโบว์เทราต์และปลาสเตอร์เจียน ซึ่งได้นำมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจนสามารถผลิตคาร์เวียร์คุณภาพ ณ "หน่วยวิจัยประมงบนพื้นที่สูง" สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ การก่อสร้างโครงการบ่อพักน้ำ และอาคารบังคับน้ำ ประกอบด้วย บ่อพักน้ำขนาด 500 ลูกบาศก์เมตร 4 บ่อ ปัจจุบันมีความคืบหน้า ร้อยละ 80 เพื่อกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในช่วงหน้าแล้งและฤดูฝน ทั้งในด้านการเลี้ยงปลาเรนโบว์เทราต์และปลาสเตอร์เจียน ทั้งยังก่อสร้างประตูระบาย เพื่อป้องกันน้ำท่วม
จากนั้น เดินทางไปยัง "หน่วยวิจัยขุนห้วยแห้ง" ติดตามความเสียหายของอาคารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช หลังได้รับรายงานผลกระทบจากเหตุการณ์ลมพายุและฝนฟ้าคะนอง ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา