ชาวบ้านพบหลุมต้องสงสัย ห่างชายแดนมาเลเซีย 2.5 กม. มีกลิ่นเหม็น นึกว่ามีศพ ขุดเจอโดรนขนาดใหญ่ 2 ลำ ไม่ทราบเจ้าของ รีบแจ้งตำรวจ-ทหารตรวจสอบ
วันนี้ (13 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพสำนักขามและตำรวจสายตรวจบ้านด่านนอก ได้รับแจ้งจาก นายกิตติ บัวกิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านไร่ออก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ว่า พบหลุมต้องสงสัย และคิดว่าเป็นหลุมศพ เนื่องจากมีรอยขุดใหม่และเอาใบไม้มาวางทับด้านบน ก่อนไปตรวจสอบและพบว่าภายในหลุมมีโดรนขนาดใหญ่ 2 ตัวถูกฝังไว้ ในเวลาต่อมานายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ สภ.สะเดา ทหารชุดหมวดระวังป้องกันหน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ร.5 และ ตชด.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4304 เข้าร่วมตรวจสอบด้วย
สำหรับจุดที่พบโดรนถูกฝังไว้ อยู่บริเวณถนนสายบ้านพรุเตียวไปยังด่านศุลกากรแห่งใหม่ ซึ่งห่างจากถนนประมาณ 30 เมตร สภาพเป็นป่าหญ้ามีต้นไม้ขนาดเล็กขึ้นอยู่ทั่วไป โดยถนนเส้นนี้ยังไม่มีรถสัญจรไปมามากนัก เนื่องจากด่านศุลกากรยังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ จะมีเพียงรถของชาวบ้านและชาวสวนที่ผ่านไปผ่านมาเท่านั้น
นายกิตติ เผยว่า มีคนเลี้ยงวัวไปเจอหลุมดังกล่าว มีกลิ่นเหม็น คิดว่ามีศพถูกฝังไว้ ก่อนประสานตนและกู้ภัยฯ เข้าตรวจสอบ ซึ่งพบว่าเป็นกองดินขุดใหม่ จึงลองเขี่ยๆ ดูพบผ้าใบสีฟ้าและมีไม้กระดานวางอยู่อีกชั้นโดยด้านล่างเป็นหลุมมีกล่องอยู่สองกล่องเมื่อเปิดกล่องดูพบเป็นโดรนขนาดใหญ่วางอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบอีกที
ด้านนายวิเชษต์ เผยว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโดรนที่ถูกนำมาฝังไว้เป็นของใคร และเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เท่าที่สังเกตไม่น่าจะใช่โดรนที่ใช้ในการเกษตร และสภาพยังใหม่คล้ายๆ กับประกอบยังไม่เรียบร้อย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้จัดกำลังทำการกันพื้นที่ไว้ เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด หรือ EOD จากค่ายท่านมุก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบโดยละเอียดในช่วงเช้าวันนี้
อย่างไรก็ดี จากจุดที่พบโดรนขนาดใหญ่พบว่าห่างจากชายแดนมาเลเซียประมาณ 2.5 กิโลเมตร ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าโดรนอาจจะใช้สำหรับขนของผิดกฎหมายบางอย่างข้ามประเทศ หรือจุดประสงค์อื่นๆ ต้องรอตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง