คนขับเก๋งดำโชว์กร่าง ขับปาดหน้าเข้าด่านเก็บเงิน ไม่พอใจถูกเต๊าะไฟเตือน ชูนิ้วกลาง ด่าหยาบ ชักปืนขู่ยิง อ้างรู้จักตำรวจใหญ่

คนขับเก๋งดำโชว์กร่าง ขับปาดหน้าเข้าด่านเก็บเงิน ไม่พอใจถูกเต๊าะไฟเตือน ชูนิ้วกลาง ด่าหยาบ ชักปืนขู่ยิง อ้างรู้จักตำรวจใหญ่

View icon 333
วันที่ 13 มิ.ย. 2568 | 17.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “น้องโอปอ คนเดิม” ได้โพสต์คลิปวีดีโอของกล้องหน้ารถ เป็นเหตุการณ์มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง ปาดเข้าด่านจ่ายเงินค่าทางด่วน บริเวณด่านบางแก้ว ถนนกาญจนาภิเษก สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ขามุ่งหน้าบางปะอิน ก่อนที่จะมีปากเสียงกันขึ้น โดยชายที่ขับรถเก๋งลงมาจากรถ ก่อนเดินไปอีกฝั่งเปิดรถก่อนหยิบอาวุธก่อนเหน็บที่หลัง และเดินมาทางฝั่งคนขับรถกระบะคู่กรณีและมีการโต้เถียงกันด่าทอกัน ก่อนที่ฝ่ายแฟนสาวของฝั่งรถกระบะจะมีการเตือนสติฝ่ายแฟนหนุ่ม ให้คิดถึงหน้าลูก

ขณะเดียวกันยังมีการเขียนข้อความระบุว่า “เวลา 22.52 น. ใครผ่าน ด่านเก็บตังเมกะบางนา ทางนั้นพอมีกล้องหน้ารถที่จับภาพป้ายทะเบียน รถโตโยต้า วีออส คันสีดำ รบกวนช่วยน้องทีค่ะ พอดีจะไปแจ้งความ พอดีโดนเขาเอาปืนออกมาข่มขู่จะยิง ปาดหน้าเขาเข้ามาแท้ ๆ ต้องเป็นคนแบบไหนกันว่าจะปล่อยผ่านแล้วนะ เสือกมาชูนิ้วกลางใส่ก่อน แล้วยังเอาปืนลงมาขู่จะยิงอีก ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนปาดเขาเข้ามา ต้องโตมาในสังคมแบบไหนกันอ่ะ เขาอุส่าห์ยอมแล้ว พอเขาเอาจริงขึ้นมาทำไมหนีหางจุกตูดอ่ะ ในเมื่อเป็นคนเอาปืนลงมาขู่จะยิงเขาก่อน”

สำหรับเหตุดังกล่าว เกิดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 12 มิ.ย. 68 เวลา 22.52 น.ที่ผ่านมา จากการสอบถาม น.ส.คฑามาศ อายุ 27 ปี แฟนสาวคนขับรถกระบะคันดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนั้นตนและแฟนกำลังเดินทางกลับจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อที่จะกลับเข้าบ้านที่ จ.นนทบุรี พอถึงบริเวณหน้าด่านบางแก้ว รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับขึ้นมาปาดหน้ารถของแฟนตนเข้าด่าน โดยก่อนหน้านี้รถตนกับรถของอีกฝ่ายไม่ได้มีการขับปาดหน้า หรือมีเรื่องกันมาก่อนเลย

หลังจากที่เขาขับปาดหน้ารถ แฟนตนได้เต๊าะไฟเตือนเขา เพราะว่าหลังรถมีของเยอะมาก และรถมันหนัก กลัวว่ารถจะเบรกไม่อยู่แล้วไปชนเขา และอีกและฝ่ายน่าจะไม่พอใจเรื่องนี้ จึงลดกระจกรถลงมา แล้วชูนิ้วกลางให้พวกตน ด่าบุพการีและด่าคำหยาบ จากนั้นแฟนตนจึงลดกระจกลงและด่ากลับไป ในจังหวะที่แฟนตนด่ากลับ อีกฝ่ายได้ลงจากรถ แล้วเดินไปฝั่งซ้ายของคนขับที่รถของเขา ก่อนมีการไปเอาอาวุธปืนออกมา และมีการขึ้นลำปืนเอาไว้ ก่อนที่จะนำปืนไปเหน็บไว้ที่ด้านหลังของกางเกง จากนั้นเดินมาหาแฟนของตน ซึ่งตนพยายามที่จะขอโทษไปแล้ว แต่เขาก็ยังยืนด่าอยู่พักหนึ่ง จนมีพี่ รปภ. ที่ด่านเดินมาช่วยห้าม และตนพูดเสริมไปว่าขอให้เรื่องมันจบอยู่แค่นี้ ให้เขาขึ้นรถไปจ่ายเงินแล้วแยกย้ายกัน เพราะตนกลัว เนื่องจากเขามีอาวุธ แต่พวกตนไม่มีอะไรเลย

เมื่อเขาเดินกลับไปที่รถยังได้ถลกเสื้อขึ้น เพื่อโชว์ให้เห็นอาวุธปืนที่เหน็บไว้ด้านหลัง แล้วเขาก็ขึ้นรถไปจ่ายเงิน คิดว่าจะจบอยู่แค่นั้น แต่พอเขาจ่ายเงินเสร็จ ก็ขับรถเข้าซ้ายจอดรอ โดยตอนนั้นได้กำชับกับแฟนไปแล้วว่าให้มันจบอยู่แค่นี้ หลังจากนี้ให้แยกย้ายแล้วกลับบ้านเลย แต่พอจังหวะจะออกรถเพื่อที่จะกลับบ้าน เขาก็เดินมาขวางหน้ารถพร้อมกับด่าทอคำหยาบคาย ตนจึงขอโทษไปอีกรอบ เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่คู่กรณียังขับตามมาตีคู่ประกบข้างรถ เปิดกระจกรถมาด่า ทำให้แฟนตนโมโหเหมือนจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พร้อมบอกว่า จะเอาจริง ๆ ใช่ไหม จะเล่นจริง ๆ ใช่ไหม แล้วแกล้งเหมือนหาอะไรบางอย่างในรถ เพื่อที่จะทำให้อีกฝ่ายว่ามีอาวุธเช่นกัน เขาก็เลยขับรถเหยียบหนี แฟนของตนก็ขับรถตามไป จนไปถึงบริเวณทางแยกที่จะออกไปทางอ่อนนุช อีกฝ่ายตบรถเข้าซ้าย ด้านแฟนของเธอจึงตบรถเข้าตาม แล้วบอกว่าให้ลงมาคุยลงมาเคลียร์กัน แต่อีกฝ่ายไม่ยอม รีบหนีไปเลย

น.ส.คฑามาศ บอกอีกว่า หลังจากนั้นได้บอกแฟนว่าไม่ต้องตามไปแล้ว ให้เป็นเรื่องของคดีความ เพราะจะไปแจ้งความในวันนี้ (13 มิ.ย. 68) ที่ สภ.บางแก้ว โดยยืนยันจะเอาเรื่องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด เพราะเหตุการณ์ของอีกฝ่ายมันอุกอาจมาก ไม่สมควร สุดท้ายแล้วตนอยากฝากถึงอีกฝ่ายว่า ให้เขาใจเย็นลงกว่านี้ ไม่สมควรที่จะชักปืนออกมาแบบนี้ ขณะเดียวกันเขาอ้างว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ ตนก็เลยคิดว่าถ้าเขารู้จักกับคนใหญ่คนโตจริง ๆ ถ้าไปแจ้งความแล้ว จะเอาผิดอะไรเขาได้หรือเปล่า