กองปราบ เตรียมสรุปสำนวนฟ้อง 10 ผู้ต้องหาคดี สจ.กอล์ฟ รุมยำ ตชด. ส่งอัยการ 18 มิ.ย.นี้ ส่วนคดีพนันออนไลน์พบเส้นเงินอาจเกี่ยวข้องบุคคลใกล้ชิด เร่งตรวจสอบรายละเอียด
วันนี้ (16 มิ.ย.68) พล.ต.อ. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี สจ.กอล์ฟ เรียกคณะทำงานประชุมด่วนที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อสรุปสำนวนคดี โดยภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ. ธนายุตม์ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมกับคณะทำงานคดีนี้ โดยเป็นการสรุปสำนวนทั้งหมด เบื้องต้นมีความเห็นส่งฟ้อง 10 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาแยกเป็น 2 ส่วน
โดยส่วนแรกคือกลุ่มลูกน้องของ สจ.กอล์ฟ 8 คน ถูกแจ้งข้อกล่าว 4 ข้อหา ได้แก่ ”ร่วมกันเป็นช่องโจร, ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่ฯ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยการกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และ ร่วมกันบุกรุก โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป“ ส่วนของ สจ.กอล์ฟ และลูกน้องคนสนิทอีก 1 คนนั้น ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิด และร่วมกันขัดคำสั่งเจ้าพนักงานฯ ”
ทั้งนี้ จะส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ซึ่งมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งวัตถุพยาน ที่ตำรวจพบว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมี สจ.กอล์ฟเป็นคนสั่งการ เชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมจะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 10 รายในคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ถูกจับกุมแล้ว 9 ราย เหลืออีก 1 รายอยู่ระหว่างการหลบหนี แต่ตำรวจมั่นใจว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีเร็วๆ นี้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลสำคัญที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งคดีทำร้ายร่างกาย และเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ด้วย
ด้าน พล.ต.ต. ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในส่วนของการขยายผลคดีทำร้ายร่างกายของกลุ่ม สจ.กอล์ฟ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมีผู้ต้องหา 2 คนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และพบว่ามีผู้ที่ร่วมสนับสนุนเว็บนี้รวม 20 ราย จับกุมไปแล้ว 6 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ดังนั้น ตำรวจจึงได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับ สจ.กอล์ฟแล้ว นอกจากนี้ ได้มีการรวบรวมหลักฐาน เกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงิน ส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน ที่มีมูลฐานความผิดการฟอกเงิน ส่วนเส้นทางการเงิน จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง อยู่ระหว่างการรวบรวม หากพบบุคคลใดที่เกี่ยวข้องตำรวจดำเนินการไม่ละเว้น