ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีหลักการในการให้การช่วยเหลือในด้านรายจ่ายเกี่ยวกับค่าเช่าบ้านข้าราชการ สำหรับข้าราชการที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการประจำในสำนักงานแห่งใหม่เนื่องจากส่วนราชการเป็นสาเหตุ
แต่สำหรับข้าราชการที่บรรจุครั้งแรก ซึ่งได้รายงานตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในท้องที่แห่งหนึ่ง และยังไม่มีคำสั่งให้ข้าราชการต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการในท้องที่อื่น จึงยังไม่ถือว่าข้าราชการผู้นั้นได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัย อันเนื่องมาจากส่วนราชการเป็นสาเหตุให้ต้องย้ายไปปฏิบัติราชการในท้องที่อื่น จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้าน ข้าราชการจากทางราชการ ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ
ทั้งนี้ สิทธิค่าเช่าบ้านข้าราชการ เป็นหนึ่งในสิทธิที่ได้รับตามกฎหมายของข้าราชการที่ต้องไปทำงานต่างถิ่น เป็นค่าตอบแทนซึ่งทางราชการให้ความช่วยเหลือแก่ข้าราชการผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัย เนื่องจากงานของทางราชการเป็นเหตุ
ข้าราชการที่จะเบิกสิทธิค่าเช่าบ้านได้นั้น จะต้องเป็นข้าราชการที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 มาตรา 7 และไม่เข้าข้อห้ามคือ
-ทางราชการได้จัดที่พักให้อยู่แล้ว
-มีบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรสในท้องที่ไปประจำสำนักงานใหม่ โดยไม่มีหนี้ค้างชำระกับสถาบันการเงิน
-ได้รับคำสั่งให้ไปประจำสำนักงานใหม่ในท้องที่ที่รับราชการครั้งแรกหรือท้องที่ที่กลับเข้าราชการใหม่
-ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานใหม่ในต่างท้องที่ตามคำร้องขอของตนเอง
-และจะต้องเป็นข้าราชการตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้
ข้าราชการผู้มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านตามกฎหมายมี 8 ประเภท ประกอบด้วย
- ข้าราชการพลเรือน
- ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
- ข้าราชการฝ่ายอัยการ
- ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
- ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
- ข้าราชการตำรวจ
- ข้าราชการทหาร
- ข้าราชการครู
ขอบคุณข้อมูล กรมบัญชีกลาง
อ้างอิง : https://audit.ops.moc.go.th/th/file/get/file/202107300d640498fb206f2d67e1829ba976d945153750.pdf
