เวลา 09.03 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง วัดพระธาตุผาเงา ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ทรงเปิดแพคลุมป้ายหอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ ซึ่งจัดสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่เก็บรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดพระธาตุผาเงา ตั้งแต่ปี 2524 จนถึงปัจจุบัน และเพื่อร่วมสมโภชเมืองเชียงราย ครบ 750 ในปี 2555
โอกาสนี้ ทรงจุดเครื่องทองน้อย แล้วทรงวางพวงมาลัย ทรงสักการะพระธาตุผาเงา เสร็จแล้วได้พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างหอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ เป็นอาคารตกแต่งด้วยงานแกะสลักลวดลายศิลปะล้านนา สวยงาม เป็นอัตลักษณ์ของชาวล้านนา สืบทอดให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาศิลปะของตนเอง และเป็นถาวรวัตถุที่ทรงคุณค่าทางศิลปะมีความสำคัญในทางพระพุทธศาสนาสืบไป
โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลัยที่หน้าพระรูปพ่อขุนเม็งราย ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในหอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ วัดพระธาตุผาเงา เดิมชื่อ วัดสบคำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถูกกระแสน้ำพัดจนพังทลาย คณะผู้มีจิตศรัทธาจึงได้สร้างวัดขึ้นใหม่ ภายในวัดมีพระธาตุ 3 องค์ คือ พระธาตุผาเงา, พระธาตุจอมจัน และพระธาตุเจ็ดยอด ถัดจากพระธาตุผาเงาขึ้นไปบนยอดเขา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ ที่สร้างครอบพระธาตุเจ็ดยอด นอกจากนี้ ยังมีลานชมวิวมองเห็นแม่น้ำโขง และพื้นที่รอยต่อ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเมียนมา มีแม่น้ำโขงตัดผ่าน ทำให้เป็นจุดที่พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปสักการะ และชมทิวทัศน์ที่สวยงาม
เวลา 13.16 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของ "ศูนย์จัดการขยะองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ฟ้าหลวง" อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ขยายผลของศูนย์จัดการขยะโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการดำเนินงานโครงการฯ เป็นต้นแบบการบริหารจัดการขยะในระดับท้องถิ่น ตามแนวทางหยุดยั้งขยะไปหลุมฝังกลบ หรือ "Zero Waste to Landfill"
เริ่มจัดการขยะแบบไม่มีขยะสู่บ่อฝังกลบ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ตามแนวทางของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ คือ "จัดการดี" แยกขยะเป็น 7 ประเภท เพื่อง่ายต่อการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ได้แก่ วัสดุรีไซเคิล ขยะย่อยสลายได้ ขยะปนเปื้อน ขยะพลังงาน ขยะห้องน้ำ ขยะชิ้นใหญ่ และขยะอันตราย จัดเก็บขยะตามวัน ในเวลาที่นัดหมาย ไม่มีขยะไปสู่บ่อฝังกลบและเผาให้น้อยที่สุด นำกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด, "อาศัยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน" พื้นที่รับผิดชอบของ อบต.แม่ฟ้าหลวง รวม 24 หมู่บ้าน ประชากร 10,200 คน และหน่วยงานราชการ เพื่อแยกขยะจากต้นทาง และ "เพิ่มมูลค่าขยะ" โดยนำมาทำบล็อกปูพื้นจากเศษกระจก รีไซเคิลขยะมากขึ้น เช่น กล่องนม ขวดแก้วและถุงยึด และทำปุ๋ยจากเศษอาหารและใบไม้
ก่อนมีศูนย์จัดการขยะฯ มีปริมาณขยะทั้งหมด 616 ตันต่อปี ร้อยละ 81 ถูกทิ้งบ่อฝังกลบ และร้อยละ 19 เผาในที่โล่งแจ้ง หลังมีศูนย์จัดการขยะฯ ขยะทั้งหมดถูกกำจัดอย่างถูกต้อง ไม่มีขยะลงสู่บ่อฝังกลบหรือเผาในที่โล่งแจ้ง และปริมาณขยะลดลงเหลือ 179 ตันต่อปี เนื่องจากมีการใช้ถุงใส และมีการรณรงค์ให้ใช้ประโยชน์จากวัสดุรีไซเคิล และขยะย่อยสลายได้ โดยร้อยละ 40 ของขยะในศูนย์ถูกกำจัดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในปี 2567 ได้ 973 ตันคาร์บอนไดออกไซค์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่ากับการมีป่าไม้ 1,024 ไร่ และยังเพิ่มการจ้างงานคนในชุมชนได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาดูงานศูนย์จัดการขยะองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ฟ้าหลวง สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-5376-7465-7
เวลา 13.56 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยัง โรงงานแมคคาเดเมียดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง ทอดพระเนตรความก้าวหน้าการดำเนินงานป่าเศรษฐกิจ ในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งในปี 2532 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระราชดำริให้พัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรชาวไทยภูเขาในลักษณะ "วิสาหกิจชุมชนดอยตุง" เพื่อให้ชุมชนสามารถดูแลตนเองได้ในระยะยาว ตลอดจนแก้ไขปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย การปลูกฝิ่น และการตัดไม้ทำลายป่า ด้วยการส่งเสริมการปลูกต้นแมคคาเดเมีย ภายใต้รูปแบบป่าเศรษฐกิจ บริหารจัดการภายใต้บริษัท นวุติ จำกัด ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม ควบคู่กับการส่งเสริมการปลูกป่าอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 36 ปี มีการพัฒนาสายพันธุ์แมคคาเดเมีย 10 สายพันธุ์ ปลูกไปแล้วกว่า 15,600 ต้น ภายในพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ กว่า 700 ไร่ ปัจจุบัน มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 50 คน สร้างรายได้และเกิดการจ้างงาน เฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อปี ป่าเศรษฐกิจยังเป็นต้นแบบให้ราษฎรชาวไทยภูเขา นำไปขยายการปลูกในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ กว่า 90,000 ไร่ ปัจจุบันมีการแปรรูปพัฒนาเป็นสินค้าต่าง ๆ และกำลังพัฒนาสินค้าใหม่ เช่น "น้ำนมแมคคาเดเมีย" สำหรับตลาดคนรักสุขภาพอีกด้วย
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ วิสาหกิจชุมชนดอยตุง ภายใต้การดูแลของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ให้การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพกลุ่มเกษตรกร ช่างฝีมือ และผู้ประกอบการในชุมชน 29 หมู่บ้าน ในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ กว่า 10 กลุ่มชาติพันธุ์ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง, อำเภอแม่สาย, อำเภอแม่จัน และอำเภอเทิง มี สถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป ผ่านแนวคิด อยู่กับป่าอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ท้องถิ่น และเตรียมเข้าสู่ตลาดออนไลน์ รวมถึงจับมือกับแบรนด์ "ดอยตุง" เพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยรายได้ถูกกระจายสู่ครัวเรือนในชุมชนอย่างทั่วถึง