น้องชายใช้มีดฟันแม่วัย 84 ปีดับ พี่สาวกลับบ้านช็อก ล๊อกคประตูขัง แจ้งตำรวจตรวจสอบ เพื่อนบ้านเผยผู้ก่อเหตุมีอาการป่วย และชอบสะสมมีด
วันนี้ (20 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวานนี้ พ.ต.ท.บัญชา สุ่มเงิน พนักงานสอบสวน สภ.ขาณุวรลักษณ์ชลบุรี จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆาตกรรมในบ้านพักในพื้นที่ ต.เกาะตาล อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดป่าพุทรา โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ภายในห้องครัวของบ้านพบศพหญิงอายุ 84 ปี สวมเสื้อคอกระเช้าสีฟ้า และผ้าถุงลายดอกน้ำเงิน นอนคว่ำจมกองเลือดอยู่บนพื้น ตามร่างกายพบบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมหลายจุด ส่วนผู้ก่อเหตุคือ ลูกชายผู้ตาย อายุ 52 ปี
สอบถาม ลูกสาวคนโตของผู้ตาย ทราบว่า ก่อนพบศพได้เดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน พบว่าภายในบ้านดูเงียบผิดปกติ ไม่เห็นแม่เดินออกมาพูดคุยด้วย จึงเดินเข้าไปในห้องครัวก็พบแม่นอนจมกองเลือดเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นได้เดินเข้าไปที่ห้องของน้องชาย พบน้องชายนั่งเหม่อรอย จึงสอบถามว่าได้ทำร้ายแม่หรือไม่ ซึ่งน้องชายบอกว่าเป็นคนทำ ตนจึงออกมาจากบ้านและล็อกประตูรั้วพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงก็เข้าไปชาร์จตัวของผู้ก่อเหตุควบคุมตัวไปโรงพักทันที ขณะเดียวกันชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็มามุงดูเหตุการณ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยพบว่าในตัวผู้ก่อเหตุมีมีดสปาต้า 3 เล่ม แต่ยังไม่รู้ว่าใช้มีดเล่มใดก่อเหตุ
ด้านเพื่อนบ้าน อายุ 60 ปี เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่กันสามคนมีลูกสาวและลูกชายที่ก่อเหตุ ช่วงเกิดเหตุตนได้ยินผู้ก่อเหตุร้องเอะอะโวยวาย ตนก็คิดว่าน่าจะคลุ้มคลั่งเหมือนวันก่อน แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง จนเกิดเหตุสลดขึ้นวันนี้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปขอนอนที่บ้านของตน บอกว่ากลัวผี ตนตอบกลับไปว่านอนไม่ได้ เพราะสามีตนอยู่ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมกลับ และมีอาการหลอนหาว่าตนจะฆ่าบ้าง จะทำร้ายบ้าง และพยายามจะดันประตูเข้ามาหา ตนจึงขึ้นรถกระบะกับลูกหนีออกจากบ้านไป ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุอยู่ภายในบ้านของตนลำพัง พอตกตอนเย็นพี่สาวของผู้ก่อเหตุก็ได้มารับกลับบ้านไป อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมพกมีดอยู่ตลอดเวลา และเป็นคนชอบสะสมมีด ซึ่งผู้ก่อเหตุมีอาการเป็นผู้ป่วยจิตเวชรักษามานานแล้ว แต่ช่วงหลังเหมือนอาการกำเริบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ถาม ผู้ก่อเหตุสามารถคุยตอบรู้เรื่องปกติ ตอบคำถามเป็นขั้นเป็นตอนได้ปกติ ส่วนประวัติเคยมีการรักษาทางด้านจิตเวชมาก่อน ซึ่งตำรวจจะทำการส่งผู้ก่อเหตุตรวจสอบอาการทางจิตเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าบุพการีโดยเจตนา”