ข่าวภาคค่ำ - ผลพวงกรณี อิหร่านประกาศจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ส่งผลให้กระทรวงพลังงาน เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วน หาวางแผนรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้น
คงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 31.94 บาท/ลิตร
ช่วงเย็น ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.มีมติปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยน้ำมันดีเซล เพิ่มอีก 30 สตางค์ต่อลิตร จากชดเชยอยู่ 35 สตางค์ต่อลิตร เพิ่มเป็น 65 สตางค์ต่อลิตร เพื่อคงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร มีผลวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) เป็นต้นไป บรรเทาผลกระทบที่ราคาน้ำมันโลกขยับขึ้น
แต่สวนทางกับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ซึ่งผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ประกาศปรับขึ้นราคาอีก 40 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
หวั่นราคาน้ำมันพุ่งแตะลิตรละ 50 บาท
ก่อนหน้านั้นวันนี้ (23 มิ.ย.) นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแผนรับมือสถานการณ์พลังงานหากรุนแรงขึ้น ด้วยการเตรียมน้ำมันสำรองในประเทศ หามาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันขายปลีกผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่สถานะกองทุนฯ ล่าสุด ยังติดลบ 35,408 ล้านบาท และวางแผนไปถึง ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG เชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า นำเข้าผ่านช่องแคบฮอร์มุซเช่นกัน ให้หาจากแหล่งอื่นที่มีราคาถูกทดแทน
ขณะที่ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ประเมินผลกระทบหากปิดช่องแคบฮอร์มุซ จะทำไทยขาดพลังงานไป 1 ใน 3 ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งผลกระทบยังไม่เห็นชัดในช่วงเวลา 1 เดือน เนื่องจากประเทศไทยมีน้ำมันสำรองใช้ได้ 60 วัน แต่หากปิดช่องแคบเกิน 1 เดือน หรือราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งแตะระดับ 100-200 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อาจเห็นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในไทย แตะระดับ 45-50 บาทต่อลิตร แถมเสี่ยงกระทบราคา LNG ผลิตไฟฟ้า อาจทำค่าไฟแพงขึ้น ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย
