แรงงานสาวกัมพูชาวัย 20 ทิ้งทารกแรกเกิดที่ รพ.ตราด หวังหนีกลับประเทศ อ้างคลอดลูกแล้วไม่มีเงินจ่าย อีกทั้งสามีกลับประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานส่งตัวแม่-ลูกกลับประเทศ โดยแจ้งให้โรงพยาบาลที่ประเทศกัมพูชา ให้รับช่วงดูแลต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 มิ.ย. 2568) เวลา 16.00 น. ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตราด ว่าพบหญิงสาวมีพฤติกรรมน่าสงสัย คล้ายจะทิ้งทารกแรกเกิดไว้ในโรงพยาบาลและพยายามหลบหนีออกจากโรงพยาบาล หลังรับแจ้ง ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองตราด รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่แผนกหลังคลอด โรงพยาบาลตราด พบพยาบาลกำลังควบคุมตัวหญิงสาวคนหนึ่งไว้ ทราบชื่อภายหลังคือ นางสาวนา (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เป็นแรงงานชาวกัมพูชา จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า นางสาวนา เริ่มมีอาการเจ็บท้องเมื่อช่วงค่ำวานนี้ และถูกส่งตัวมาคลอดที่โรงพยาบาลตราด เมื่อเวลา 04.00 น. โดยเป็นการคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์เพียง 6 เดือนเศษ ทารกเพศชาย น้ำหนักแรกเกิด 900 กรัม ต้องเข้าตู้อบทันที อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายวันนี้ นางสาวนาได้พยายามแอบเดินออกจากโรงพยาบาล แต่พยาบาลสังเกตเห็นและเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทันก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางสาวนาไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองตราด โดย ร.ต.อ.สมบัติ ขอดทอง พนักงานสอบสวน หลังสอบสวนแล้ว ได้ประสานรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลตราด เพื่อเคลื่อนย้ายแม่ลูกกลับไปยังด่านชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ พร้อมประสานโรงพยาบาลจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ให้รับช่วงดูแลต่อ
ด้านนางสาวออน เพือน อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมงานของนางสาวนา เล่าว่า นางสาวนา มาทำงานในโรงงานไม้หอมกับสามีได้ 8 เดือน ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สามีของนางสาวนาได้เดินทางกลับประเทศก่อน ส่วนตัวนางสาวนาตั้งใจจะอยู่ทำงานจนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม เพื่อรับเงินเดือนแล้วจึงจะตามกลับไป แต่นางสาวนาเกิดคลอดก่อนกำหนด ทำให้เกิดภาระค่ารักษาพยาบาลหลักหมื่นบาท ซึ่งนางสาวนา ไม่สามารถจ่ายได้ จึงตัดสินใจจะทิ้งลูกไว้ และหนีกลับประเทศ
นางสาวออนกล่าวอีกว่า ตนอยู่ทำงานในประเทศไทยมา 3 ปีแล้ว และยังไม่คิดกลับ เพราะรายได้ สวัสดิการ นายจ้าง และระบบการศึกษาสำหรับบุตรในไทย ยังดีกว่าที่กัมพูชาอย่างเห็นได้ชัด