เจ้าหน้าที่ทางหลวงชุมพร พบรถทัวร์ต้องสงสัย สกัดจับ พบแรงงานผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก
วันนี้ (26 มิ.ย. 68) พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.ชุมพรพ.ต.ท.วิรัตน์ ฉิมมณี สว.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร และ พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญ กอ.รมน.ชุมพร และกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมจับกุมนายประสิทธิ์ อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล คนขับรถทัวร์ มือ 1 พร้อมด้วย นายทศพร อายุ 34 ปี ชาวบ้าน ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา คนขับมือ 2 และนายศุภกิจ เด็กรถ อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา ร่วมกันลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 47 คน มากับรถทัวร์ปรับอากาศ สีขาว-ฟ้า ทะเบียน กทม.
สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา ประมาณ 02.30 น.วันที่ 26 มิถุนายน 68 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้นำรถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2408 ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย จนมาถึงบริเวณ ทล.4 (เพชรเกษม) กม.483 (ขาล่องใต้) ม.9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบรถทัวร์โดยสารต้องสงสัย สีขาว-ฟ้า ทะเบียน กทม.ขับมาในเลนแช่ขวายาวตลอดเส้นทางเดินรถ โดยได้แซงรถวิทยุขึ้นมาในช่องทางขวา
เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตาม พร้อมส่งสัญญาณเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อว่ากล่าวตักเตือน เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุดแล้วนั้น รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วลักษณะคล้ายจะหลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถส่งสัญญาณให้รถโดยสารประจำทางคันดังกล่าวหยุดแล้ว จึงได้ลงตรวจสอบพบว่า มีผู้ขับขี่ประจำรถเป็นชาย ชื่อ นายประสิทธิ์ นายทศพร นายศุภกิจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถามบุคคลทั้ง 3 คน ว่าเหตุใดจึงไม่จอดรถขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุด ทั้ง 3 คน กลับมีท่าทางพิรุธ ต้องสงสัย พูดจาวกไปวนมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขึ้นไปตรวจสอบบุคคลภายในรถทัวร์โดยสาร และพบว่าบุคคลที่นั่งมาในรถทัวร์โดยสารนั้น เป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา เป็นเพศชายจำนวน 30 คน และเพศหญิงจำนวน 16 คน และมีผู้ติดตามเพศหญิง 1 คน รวมทั้งหมด จำนวน 46 คน และเด็ก 1 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดงตนหรือหลักฐานแสดงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยสารมาร่วมกับผู้โดยสารซึ่งเป็นคนสัญชาติไทย
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้โดยสารซึ่งเป็นแรงงานที่ได้ซื้อตั๋วและมีที่นั่งทั้งสิ้นจำนวน 20 คน ตามตั๋วโดยสาร ส่วนที่เหลือไม่พบตั๋วโดยสาร โดยพบว่ามีแรงงานซุกซ่อนอยู่ในช่องนอนหลังเบาะผู้ขับขี่จำนวน 10 คน และซุกซ่อนอยู่ในช่องใส่กระเป๋าใต้ท้องรถอีกจำนวน 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 11 คน นั่งกระจายอยู่บริเวณเบาะผู้โดยสารด้านหลังรถ
พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือซ่อนเร้น ให้แรงงานที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ขับขี่และพนักงานประจำรถที่รู้เห็นในการนำพาแรงงานผิดฎหมายทั้งหมด พร้อมรถของกลางมายังสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด
นายประสิทธิ์ฯ ผู้ขับขี่ประจำรถ นายทศพร และนายศุภกิจ ให้การรับสารภาพว่า แรงงานทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางและเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนำรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้มีผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วจำนวน ทั้งสิ้น 20 คน และยอมรับว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าเป็นคนไทยไม่ทราบชื่อที่อยู่ ได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ให้มารับแรงงานที่ไม่มีเอกสารประจำตัวและไม่มีตั๋วโดยสารอีก จำนวน 2 จุด หลังจากออกจากสถานีขนส่งสายใต้ จุดแรกที่ จ.สมุทรสาคร และมารับจุดที่ 2 ที่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งจะมีเบอร์โทรของนายหน้าโทรมาหาและบอกจุดรับ-ส่ง ตลอดเส้นทาง โดยได้รับค่าจ้างรวมเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท จะโอนให้หลังจากส่งแรงงานถึงจุดหมายปลายทาง คือจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 3 คน ในข้อหา “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
