มทภ.4 กำชับเจ้าหน้าที่คุมเข้มพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และจังหวัดท่องเที่ยวเน้นเมืองเศรษฐกิจ ขอความร่วมมือสอดส่องแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ

มทภ.4 กำชับเจ้าหน้าที่คุมเข้มพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และจังหวัดท่องเที่ยวเน้นเมืองเศรษฐกิจ ขอความร่วมมือสอดส่องแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ

View icon 147
วันที่ 27 มิ.ย. 2568 | 07.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
มทภ.4 ย้ำผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างสถานการณ์ทำลายเมืองท่องเที่ยวสำคัญกำชับเจ้าหน้าที่คุมเข้มพื้นที่ จชต. เน้นเมืองเศรษฐกิจ ขอความร่วมมือสอดส่องแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ

ช่วงเย็นวันที่ 26 มิถุนายน  2568 ที่ค่ายเสนาณรงค์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  พลโท ไพศาล  หนูสังข์  แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  เปิดเผยถึงกรณีที่ตำรวจ เข้าจับกุมตัว นายสุไลมาน และนายมูหามะ สองผู้ต้องหาพร้อมวัตถุระเบิด ภายในรถยนต์ส่วนบุคคล  พื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพังงา เมื่อ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา จนนำมาสู่การสอบปากคำ และตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิด  ยืนยันผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเดียวกันที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมกล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่จนนำมาสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ และมีความสงสัยเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9  ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังขยายผลตรวจค้นพื้นที่จังหวัดปัตตานี 4 จุด เข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการขนวัตถุระเบิด ป่วน จังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ได้เพิ่มอีก 3 คน จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุรับสารภาพได้รับ สั่งการจากแกนนำกลุ่มขบวนการหวังสร้างสถานการณ์ ลดทอนความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจทะเลอันดามัน คือ จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่  ส่วนวัตถุระเบิดที่ตรวจพบนั้นไม่ใช่ระเบิดทำลาย หรือระเบิดสังหารแต่อย่างใด เป็นเพียงระเบิดสร้างสถานการณ์ให้เกิดความหวาดกลัว ต่อประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเท่านั้น  ชื่นชมการทำงานมีความพร้อมปฏิบัติอยู่เสมอของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 ที่บูรณาการอย่างประสานสอดคล้องใกล้ชิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ร่วมกันทำงานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ยืนยัน ทุกภาคส่วน ยกระดับ มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่เข้มงวด ควบคู่กับการเฝ้าระวังกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อาจจะไปก่อเหตุ สร้างสถานการณ์นอกพื้นที่ซ้ำมากขึ้น สิ่งสำคัญคือเครือข่ายภาคประชาชนต้องร่วมกันเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น หากพบบุคคลต้องสงสัย แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง