หนุ่มบิกไบก์หัวร้อน อ้างรถเก๋งเฉี่ยว จึงขี่บิกไบก์ปาดหน้ารถเก๋ง ก่อนใช้หมวกกันน็อกฟาดทั้งรถ ทั้งคนขับเก๋งไม่ยั้ง ก่อนขี่บิกไบก์หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุด คนขับเก๋ง แจ้งความและประกาศตามตัวให้มารับผิดค่าซ่อมรถ และคนขับเก๋ง ยังสงสัยว่าไปเฉี่ยวบิกไบก์ตอนไหน
30 มิถุนายน 2568 ชายปริศนาจอดรถบิกไบก์ขวางหน้ารถเก๋งสีดำ ก่อนทำร้ายคนขับรถเก๋งจนไปกองกับพื้นถนน พร้อมเตะประตูรถ และขวางหมวกกันน็อกใส่หน้ากระจกรถ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีพลเมืองดีบันทึกคลิปเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เวลา 03.45 น. วันที่ 29 มิ.ย. 68 หลังเกิดเหตุพลเมืองดีได้โทรแจ้ง ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการช่วยเหลือทำแผลให้คนขับรถเก๋งที่ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหูข้างซ้ายถูกหมวกกันน็อกฟาดจนหูฉีก ต่อมา ได้มีการโพสต์คลิปดังกล่าว เพื่อตามหัวหนุ่มขับบิกไบก์ที่ก่อเหตุให้มารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากคลิปถูกเผยแพร่เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับนาย พิชัย อายุ 39 ปี คนขับรถเก๋งที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวกับเพื่อนในเมืองเชียงใหม่ และระหว่างทางขับรถกลับหอพัก ซึ่งเหลือประมาณอีก 1 กิโลเมตร จู่ๆเมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถบิกไบก์ขับปาดหน้ารถตนเอง ก่อนจะบอกว่า ตนเองได้ขับรถไปชนรถจักรยานยนต์ของเขา ซึ่งตนเองก็ได้จอดรถ และกำลังจะเปิดประตูรถลงมาคุย ยังไม่ทันจะสอบถามก็ถูกชายคนดังกล่าวใช้หมวกกันน็อกฟาดศีรษะอย่างแรง หลังจากนั้น ประเคนมาทั้งหมัดและเท้าจนตนเองทรุดลง และใช้หมวกกันน็อก ฟาดกระจกหน้ารถจนแตก กระทั่งมีรถกู้ภัยขับรถผ่านมา ทางผู้ก่อเหตุจึงได้หยุด ก่อนจะขี่บิ๊กไบก์หลบหนีไป
โดยนายพิชัย ผู้ได้รับบาดเจ็บยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิด ไม่ทราบว่าไปขับรถชนรถบิกไบก์ของผู้ก่อเหตุตอนไหน ซึ่งเมื่อคืนขณะที่ตำรวจมาถึงและได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมือง เชียงใหม่ ตนเองและตำรวจก็ได้ตรวจสอบรถแล้วพบว่าไม่มีรอยเฉี่ยวชน แม้แต่นิดเดียว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน แต่มาเกิดเหตุลักษณะนี้ ที่ผ่านมาเคยเห็นแต่ข่าวไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับตนเอง
อย่างไรก็ตามต้องการฝากไปถึงชายที่เกิดเหตุให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาซ่อมกระจกรถให้กับตนเองด้วยเพราะรถไม่มีประกัน ซึ่งอย่างอื่นตนไม่เรียกร้องอะไร
