"บิ๊กเต่า" เรียกประชุมชุดสอบเงินวัดตรีฯ ยังไม่พบอดีตเจ้าคุณอาชว์ทุจริตเงินวัด แต่หลักฐานชัดปาราชิก แนะเข้าให้ปากคำกับตำรวจดำเนินคดีเอาผิดสีกา ข้อหากรรโชกทรัพย์
วันนี้ (1 ก.ค.68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพ หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขา ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพ ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน แต่ด้วยพระหลายรูปก็ยังหวาดกลัว จึงยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ เชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี และยังมีบัญชีต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด
เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่เห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ดังนั้นก็อาจจะเป็นเงินของวัด อีกทั้งเจ้าคุณอาชว์บางทีก็ไม่ได้ใช้บัญชีตัวเอง แต่ให้คนอื่นไปโอน และความสัมพันธ์กับสีกาปีกว่า ๆ ก็น่าจะมีการไหลออกของเงินจำนวนมาก แต่ไม่รู้ว่าเงินไหลไปแล้วนำไปใช้ทำอะไร เพราะฉะนั้นตำรวจต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินให้มีพยานหลักฐานชัดเจนก่อน หากมีเงินออกจากบัญชีวัดเข้าสู่บัญชีบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการโอนหรือมอบด้วยเงินสด ก็จะเข้าข่ายความผิด โดยตำรวจก็รีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะห่วงว่าเจ้าคุณอาชว์ซึ่งสึกไปแล้ว อาจเอาเงินก้อนที่เหลือของวัดไปด้วย จึงรีบเข้าไปตรวจสอบบัญชีและหยุดยั้งไว้ก่อน
ส่วนยอดเงิน 7.6 ล้านบาทที่สีกาแบล็กเมล์เจ้าคุณอาชว์นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เชื่อว่า ยังไม่มีการจ่ายเงินยอดดังกล่าว แต่ยืนยันว่าตำรวจมีข้อมูลที่น่าเชื่อเป็นคลิปและแช็ตไลน์ ว่าเจ้าคุณอาชว์น่าจะทำผิดวินัยสงฆ์ถึงขั้นปาราชิก และมีการเจรจากันระหว่างพระชั้นผู้ใหญ่และสำนักพระพุทธศาสนา ให้เจ้าคุณอาชว์ลาสิกขา เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เจ้าคุณอาชว์ไม่ยอมลาสิกขา จึงมีการประสานให้ บก.ปปป. , ปปท. และ ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบ เพราะหากคลิปหลุดออกไป ก็จะทำให้สถาบันพระพุทธศาสนาเสียหาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ประสานสีกาคนดังกล่าวไปแล้ว แต่ฝ่ายหญิงบ่ายเบี่ยง จึงยังไม่ได้สอบปากคำ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่เป็นไร เพราะประเด็นความสัมพันธ์กับสีกา เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม (มส.) จะเข้ามาดำเนินการ ตำรวจจะเน้นที่เรื่องทุจริตเงินวัด ที่หากพบหลักฐานชัดเจน ก็ค่อยเรียกสีกาสอบปากคำก็ได้
“สำหรับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ตำรวจก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ายังอยู่ในประเทศหรือไม่ โดยพบการเดินทางกลับเข้าไทยล่าสุด คือ วันที่ 29 มิ.ย.68 เป็นการกลับมาสึก ก็อาจจะยังอยู่ในประเทศไทย หรืออาจออกนอกประเทศผ่านทางช่องทางธรรมชาติก็ได้ดังนั้น อยากบอกอดีตเจ้าคุณอาชว์ ว่า ณ ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินคดีอาญาเรื่องทุจริตเงินวัด พบเพียงหลักฐานกระทำผิดวินัยเท่านั้น อีกทั้งเจ้าคุณก็เป็นฝ่ายถูกสีกากรรโชกทรัพย์ด้วยซ้ำ ดังนั้นก็อยากให้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ถ้ายอมให้การ ก็สามารถดำเนินคดีกับสีกา คดีกรรโชกทรัพย์ได้ เพราะเจ้าคุณอาจถูกกรรโชกมาแล้วหลายครั้ง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ