ดาบอยู่ในมือศาล รธน. ใช้ปลดนายกฯ มาแล้ว 1 คน ตัดสิทธิ์นักการเมืองบางคน “ณัฐวุฒิ” โอดไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย ที่เป็นอยู่ ไม่เคารพอำนาจอธิปไตยของ ปชช.
วันนี้ (1 ก.ค.68) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับพิจารณาวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ และมีมติ 7 ต่อ 2 ให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ตนไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การปลดนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง การยุบพรรคการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นโดยง่าย อย่างที่เราเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศนี้
“ที่มาและขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ ความจริงย่อมอธิบายได้”
นายณัฐวุฒิ ระบุด้วยว่า รัฐธรรมนูญนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระกำหนดมาตรฐานจริยธรรมขึ้น แม้ต้องฟังความเห็นทั้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี แต่ดาบอยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญซึ่งใช้ปลดนายกรัฐมนตรีมาแล้วหนึ่งคน และตัดสิทธิ์นักการเมืองบางคนด้วย จะเรียกว่านิติสงคราม หรือ ตุลาการภิวัฒน์ก็ตาม ความหมายโดยนัยของสองคำนี้คือ เส้นแบ่งระหว่างการเป็นกรรมการกับการเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของอำนาจตุลาการ บางลงจนแทบไม่เห็นช่องว่าง
“ที่กำลังเป็นอยู่ ไม่ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย ไม่เคารพอำนาจอธิปไตยของประชาชนเลย”