สนามข่าว 7 สี - ปมบาดหมางเรื่องทำ "นกขุนทอง" หรือ "นกเจ้าขุนทอง" หลุดจากกรงบินหายไป ทำให้ชายอายุ 41 ปี กระหน่ำยิงหวังฆ่ายกครอบครัวเพื่อนบ้านที่เป็นโจทก์กัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน แล้วหลบหนีไป ตำรวจ-เจ้าหน้าที่ ระดมกำลังนับ 100 นาย ปิดล้อมเกาะตามล่าหาผู้ก่อเหตุ
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพ ขณะที่ นายวิวัฒน์ อายุ 41 ปี ลั่นไกกระหน่ำยิงไม่ต่ำกว่า 10 นัด เข้าไปยังบ้านหลังหนึ่งของเพื่อนบ้าน ทำให้ นายอภิวัฒน์ หมั่นเพียร อายุ 37 ปี เจ้าของบ้าน และมีอาชีพขับรถแท็กซี่รับส่งนักท่องเที่ยวบนเกาะลันตา ถูกยิง 1 นัด กระสุนปืนเข้าที่แขนซ้าย ทะลุหน้าอกตัดขั้วหัวใจ เสียชีวิตทันที และลูกสาว อายุ 1 ขวบเศษ ถูกยิงศีรษะ เสียชีวิต รวม 2 ศพ
ส่วน นางสาวสุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ ถูกยิงแขนรอดตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์เกิดช่วงสาย ๆ เมื่อวาน ที่หมู่บ้านหลังสอด ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ หลังเกิดเหตุญาติ ๆ ตกใจ พากันมาดูที่บ้านหลังเกิดเหตุ แต่ละคนทำใจรับไม่ได้ เข่าทรุด ถึงกับนั่งร่ำไห้ปริ่มขาดใจบริเวณหน้าบ้าน
ปมสังหารของเรื่องเริ่มจากเมื่อ 2-3 วันก่อน นกขุนทอง หรือ นกเจ้าขุนทอง ที่ผู้ก่อเหตุเลี้ยงไว้หลุดออกจากกรง โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าเห็นว่าผู้เสียชีวิตจับนกไว้แล้วปล่อยให้บินหนีไป ทำให้ทั้งสองคนมีปากเสียงทะเละ ท้าทายกัน ก็นึกว่าจะจบกันแล้ว แต่ที่ไหนได้ช่วงสาย ๆ เมื่อวาน นายวิวัฒน์ มีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตอีก โดยครั้งนี้เล่นแรง ใช้ปืน ขนาด 9 มม. ยิงใส่บ้านนายอภิวัฒน์
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ตรวจสอบทะเบียนราษฏร์ พบว่า นายวิวัฒน์ เป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ก็คือยังไม่เคยทำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นบุคคลที่พ่อแม่ได้แจ้งเกิด มีพื้นเพเป็นชาวบ้านอยู่ในเกาะลันตาน้อย ในระบบปรากฏข้อมูลแค่ว่าอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนกับกรมการปกครอง ทั้งนี้จากการสืบสวนเชิงลึกของตำรวจพบว่า ผู้ก่อเหตุ มีประวัติพัวพันกับธุรกิจบางอย่าง ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด
พันตำรวจเอก ศิริวรรณ นาควรรณ ผู้กำกับการ สภ.เกาะลันตา เผยว่า ปฏิบัติการล่าตัวคนร้ายครั้งนี้ ระดมกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค ตำรวจภูธจังหวัดกระบี่ และฝ่ายปกครองอำเภอเกาะลันตา ไม่ต่ำกว่า 100 นาย กระจายกำลังออกค้นหาตามจุดต่าง ๆ ทั่วเกาะ ทั้งที่ขนำในสวนยางพารา กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายจอดทิ้งไว้กลางสวนปาล์มน้ำมัน ใกล้เชิงเขาพื้นที่หมู่ 3 ตำบลเกาะลันตาน้อย โดยพบว่าจุดนี้ สามารถเดินหนีขึ้นไปบนเขา และออกไปยังหมู่บ้านได้หลายทาง ระยะทางหลายกิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือชาวบ้านทุกหลัง เข้าตรวจสอบบ้านกว่า 30 หลัง ซึ่งอยู่ริมชายทะเล ผลปรากฏไม่เจอตัวคนร้าย โดยมีชาวบ้านร่วมให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยง เรื่อยมาจนถึงช่วงเย็น ยังไม่พบชายต้องสงสัยที่มีรูปพรรณสัณฐานตามที่ตำรวจระบุ ผ่านเข้าออกหมู่บ้าน หรือมาขอขึ้นเรือประมงออกจากเกาะ ตลอดคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปรับแผนวางกำลังปิดล้อมทางลงเขาด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนพกติดตัว
