ตรวจสอบ 7 บัญชีวัดตรีฯ ไม่พบรั่วไหลไปบุคคลอื่น

ตรวจสอบ 7 บัญชีวัดตรีฯ ไม่พบรั่วไหลไปบุคคลอื่น

View icon 138
วันที่ 2 ก.ค. 2568 | 17.12 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วัดตรีทศเทพ แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่แล้ว ตรวจสอบ 7 บัญชีวัด ยังไม่พบเงินรั่วไหลไปบุคคลอื่น นอกเหนือจากมติกรรมการวัดให้ความเห็นชอบ

ความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายวัดตรีทศเทพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางบอกว่า ทางวัดไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าใดนัก และได้ประสานขอให้มีการเปลี่ยนไวยาวัจกรคนใหม่นั้น ล่าสุดเจ้าคณะเขตพระนคร (ธรรมยุต) ได้เห็นชอบตามที่ พระพรหมวชิรรังษี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ แต่งตั้งศาสตราจารย์ พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการผู้จัดการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมาย และแต่งตั้งนายสุรชัย ฉายินทุ เป็นไวยาวัจกร ฝ่ายการเงินและบัญชี , นายชัยเชษฐ์ ปรีงาม เป็น ไวยาวัจกร ฝ่ายธุรการทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นไป

ล่าสุดวันนี้ ( 2 ก.ค.68) ทีมข่าวได้พูดคุยกับศาสตราจารย์ พิเศษ ธงทอง ยืนยันว่า วัดตรีทศเทพ มีการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างเป็นระบบ มีการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น ฌาปนสถาน ซึ่งมีมูลนิธิมหามกุฎฯ เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนหนึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มาทำสัญญาเช่าเพื่อจัดการสวัสดิการของตำรวจ เงินค่าเช่าหลักแสน ไม่ใช่หลักล้านต่อปี และเงินที่ได้มารวม ๆ แล้ว ทางมูลนิธิฯ ส่งให้วัดประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี ส่วนรายได้วัดจากแหล่งอื่น ๆ ก็เป็นเงินบำเพ็ญกุศล เงินทอดกฐิน ค่าบริหารจัดการลานจอดรถ ค่าเช่าฌาปนสถานที่เหลือ โดยเงินจะเข้าบัญชีออมทรัพย์ เมื่อได้จำนวนหนึ่งแล้วก็จะโอนเข้าบัญชีฝากประจำ เพราะได้ดอกเบี้ยมากกว่า

ส่วนการจ่ายเงินของวัดทำโดยมติกรรมการวัด 7 รูป ซึ่งประกอบด้วยพระชั้นผู้ใหญ่ในวัด ส่วนใครจะเป็นคนไปเบิกก็เป็นไปตามเงื่อนไขในสมุดบัญชีเงินฝาก อาจจะ 2 ใน 3 ของรายชื่อ แต่ไม่มีบัญชีเล่มใดที่เจ้าอาวาสจะตัดสินใจเบิกเองได้โดยลำพัง และบัญชีที่เป็นชื่อวัดทั้ง 7 บัญชี ตนเองตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่พบร่องรอยความไม่สบายใจใดๆ ไม่พบความผิดปกติ ไม่พบว่ามีเงินรั่วไหลไปนอกเหนือจากที่กรรมการวัดให้ความเห็นชอบ ส่วนยอดเงินในบัญชีรวมนั้น ตนเองยังไม่ขอเปิดเผยเพราะต้องตรวจทานให้ชัดเจนก่อน อีกทั้งอาจกระทบต่อความรู้สึกของสาธารณชน แต่ยืนยันว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเอกสารทั้งหมด และเล่มสมุดบัญชีธนาคารก็อยู่ในความดูแลครบถ้วน หากตำรวจจะประสานมาขอข้อมูล ก็ยินดี รวมถึงมีกำหนดการประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รายงานความคืบหน้าประมาณวันที่ 14 กรกฎาคม หลังเทศกาลเข้าพรรษาผ่านพ้นไปแล้ว

ส่วนบัญชีที่เป็นชื่อบุคคล ตนเองไม่อาจไปตรวจสอบได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าเงินที่ไปถึงสีกาอาจมาจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสเอง ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ ภายในวัด จะมีการยักย้ายถ่ายเทออกไปหรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่าตัวเลขต่างๆ ปรากฎชัดอยู่ในบัญชีธนาคารแล้ว ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เช่นแก้วแหวนเงินทอง พระพุทธรูป ก็เชื่อว่าคนในวัดจะเป็นหูเป็นตา หากมีอะไรผิดสังเกต ก็คงไม่มีใครนิ่งเฉย คงมีผู้มาร้องเรียนแล้ว

ดังนั้นขอยืนยันว่า ณ เวลานี้ยังไม่พบการกระทำความผิดทางอาญา ในทางตรงกันข้ามอดีตเจ้าอาวาสก็อาจะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาบางเรื่องด้วย ก็ให้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายบ้านเมืองดำเนินการ

ส่วนเรื่องคลิปมีความสัมพันธ์กับสีกา ตนเองยังไม่ทราบ และยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว เพราะเพิ่งเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้เมื่อวาน และมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบทรัพย์สิน หลังจากนี้คงต้องหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องวางระบบใหม่ ว่าจะต้องปรับรายชื่อบุคคลผู้มีอำนาจเบิกจ่ายอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง