ไม่สนกฎหมาย! โจ๋จ่อยิงคู่อริ 6 นัด แต่ไม่ออก รอดตายหวุดหวิด

ไม่สนกฎหมาย! โจ๋จ่อยิงคู่อริ 6 นัด แต่ไม่ออก รอดตายหวุดหวิด

View icon 446
วันที่ 3 ก.ค. 2568 | 10.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วานนี้ (2 ก.ค. 68) ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี, ประธานกิตติมศักดิ์ กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ยุ้ย (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 37 ปี แม่ของนายไผ่อายุ 19 ปี เดินทางมาพร้อมด้วย นายทีน อายุ 19 ปี เพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์ ถูกกลุ่มคู่อริใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ไล่ยิง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ตลาดบางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.บางใหญ่ เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า

โดยภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 8 มิ.ย. 68 เวลา 01.50 น. บริเวณลานจอดรถตลาดบางใหญ่ซิตี้ จับภาพนายทีน (คนขับขี่รถจยย.) และนายไผ่ (คนซ้อนรถจยย.) ขับขี่รถจยย.เสียหลักไปชนรถกระบะสีขาว (ไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ) ที่จอดอยู่จนล้มลง ก่อนที่นายภู ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของคู่อริ วิ่งเข้าไปใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายไผ่ และยื้อกันจนปืนหล่น ระหว่างที่นายภู กำลังก้มหยิบอาวุธปืน นายไผ่กับนายทีน จึงรีบวิ่งหนีไป โดยมีเพื่อนของนายภูขับขี่รถจยย. มาจอดข้าง ๆ ก่อนที่กล้องวงจรปิดอีกตัว จะจับภาพนายภูและเพื่อน หลบมาอีกมุมและยืนตรวจเช็กอาวุธปืนที่ยิงไม่ออก

นายไผ่ ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปกินข้าวแถวตลาดบางใหญ่กับกลุ่มเพื่อนรวม 4 คน และกำลังจะกลับบ้าน แต่ดันเจอ “นายภู” ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของคู่อริเก่าจึงเข้าไปถามว่าใช่คนที่เคยรุมฟันตนหรือไม่ แต่ได้รับคำตอบว่าไม่ใช่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะขับขี่รถจยย.หนีไป ต่อมาขณะพวกตนกำลังขับขี่รถจยย.ไปซื้อบุหรี่ ดันมาเจอนายภูอีกครั้ง ซึ่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนเขา จากนั้นจึงหันมาตามไล่ยิงตนตั้งแต่ตลาดมิกซ์จนถึงตลาดบางใหญ่ซิตี้ ทำให้รถจยย.ของตนเสียหลักไปชนกับรถกระบะที่จอดอยู่ในลานจอดรถ นายภูได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายทีน เพื่อนของตนซึ่งเป็นคนขับขี่รถจยย.ก่อนจะหันมาวิ่งไล่ยิงตน แต่ปืนยิงไม่ออก

ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยทะเลาะกันมาก่อนกับรุ่นน้องของนายภู ซึ่งเป็นโจทก์เก่าตน เกี่ยวกับเรื่องแฟนเก่าเขาที่มาคบตน และหลอกล่อให้ตนออกไปโดนรุมฟัน หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอกันมานานแล้ว ตอนนี้ไม่รู้สึกกลัวอะไร เคยคิดอยากไปแก้แค้น แต่ก็อยากให้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า วันนี้ตนห่วงเรื่องความปลอดภัย และอยากให้คดีมีความคืบหน้า

ขณะที่ นายทีน ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนั้นที่พวกตนกล้าเข้าไปถามเพราะตนจำหน้าได้ เมื่อครั้งที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน คืนเกิดเหตุตนไปกับเพื่อนรวม 4 คน ตนขับขี่รถจยย. สีน้ำเงิน ส่วนรุ่นน้องอีกคันขับขี่รถจยย. สีขาว ฝ่ายคู่อริมากันประมาณ 10 คน ขับขี่รถจยย.ประมาณ 5-6 คัน พอถึงตลาดก็เอาอาวุธปืนมาจ่อยิง ตนจึงต้องขับขี่รถจยย. วนหนี มีการตะโกนด่ากัน และเป็นคู่อริเก่ากัน เคยมีเรื่อง โดยมาล่อลวงตนกับเพื่อนเพื่อให้ออกไปโดนรุมฟัน ซึ่งเหตุนี้เกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากนั้นรุ่นน้องของตนจึงขับขี่รถจยย.หนีไปแจ้งความที่โรงพักก่อน ส่วนตนรับหน้าอยู่ที่หน้าเกิดเหตุ เมื่อตำรวจมาถึงจึงสงบลง พวกตนรู้จักคนที่ก่อเหตุ คือ “นายภู” เป็นรุ่นพี่ของคู่อริเก่า ส่วนอีกคนที่ขับขี่รถจยย.ไม่รู้จัก ตอนนั้นรู้สึกกลัวแต่โชคดีที่เขายิงไม่ออก จากที่สังเกตอาวุธปืนน่าจะเป็นลูกโม่ ทั้ง 2 กระบอก จ่อยิงประมาณ 6 นัด แต่ปืนไม่ลั่น คาดว่าอาจจะเพราะมีบารมีหลวงปู่ทวดคุ้มครอง ทำให้ปืนยิงไม่ออกนั่นเอง

ด้านนายหนาว อายุ 18 ปี เพื่อนผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนเห็นกลุ่มคู่อริมาไล่พวกตนบอกให้จอดรถจยย. แต่ตนและกลุ่มเพื่อนไม่ยอมจอด และรีบขับขี่รถจยย. หนีเข้าไปใน สภ.บางใหญ่ เพื่อความปลอดภัย ระหว่างนั้นมีการตะโกนด่าเกิดขึ้น รู้สึกกลัว หากวันนั้นปืนลั่นคงจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น หลังจากนี้คงจะต้องเฝ้าระวัง หากเจอคู่อริอีกคงทำอะไรไม่ได้ แต่ก็อยากรู้ความจริงว่าทำแบบนี้ไปทำไม อยากให้คดีคืบหน้า

น.ส.ยุ้ย แม่ของนายไผ่ กล่าวว่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงลูก เพราะลูกต้องเดินทางไปทำงานช่วงเวลากลางคืน กลัวจะโดนทำร้าย สำหรับคดีความก็ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. และยังรอการตอบกลับมาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้ช่วยดำเนินคดีให้ไวกว่านี้ ไม่อยากให้ปล่อยเงียบนานเกินไป อยากให้ดร.แก้วช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยของเด็ก ๆ ตนมองว่าเรื่องนี้อุกอาจมากเกินไป หากวันนั้นปืนลั่นคงจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่า ซึ่งเท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิดคู่กรณีใช้อาวุธปืนจ่อยิงใกล้ลูกของตนมาก

ดร.แก้ว กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย ว่ามีเหตุถูกไล่ยิงในตลาดบางใหญ่ซิตี้ พื้นที่ของสภ.บางใหญ่ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุมากันหลายคน ทำให้รู้ว่าไม่มีการเกรงกลัวต่อกฎหมาย ทำเหมือนเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน หลังจากนี้ตนจะช่วยติดตามให้คดีดำเนินการไวขึ้น และนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของสังคมส่วนหนึ่ง อีกส่วนเป็นหน้าที่ของรัฐทำการดำเนินคดี ตนไม่อยากให้เงียบและนานไปแบบนี้ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของกลุ่มผู้เสียหาย โดยเฉพาะเวลากลางคืนยังมีวัยรุ่นออกมาทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ ผู้ปกครองต้องช่วยกันมากกว่านี้ หากวันนั้นปืนไม่มีปัญหาหรือสามารถลั่นได้ คงจะมีผู้เสียชีวิต เดี๋ยวหลังจากนี้ตนจะพากลุ่มผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความเพิ่มเติม เบื้องต้น จากที่ดูหลักฐานเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่า ต้องดูว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร และอาวุธที่ใช้เป็นประเภทใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง