วันนี้ (4 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกฤษฏ์ อายุ 57 ปี ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ให้ช่วยล้อมจับโจรเข้าไปขโมยของในบ้าน ซึ่งโจรคนดังกล่าวเดินถือมีดไปตามถนน
โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา จึงประสานเจ้าหน้าที่ตร. สายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวชายคนดังกล่าวได้ บริเวณหน้าตลาดบ่อบัว ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ทราบชื่อต่อมาคือนายวิชาญ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ตร. จึงตรวจสอบภายในกระเป๋าที่นายวิชาญสะพายมา พบพระพุทธรูป ข้าวของเครื่องใช้ที่ได้ขโมยจากบ้านหลังอื่นมา เจ้าหน้าที่ตร. จึงคุมตัวนายวิชาญ ไปที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
จากการสอบถามนายวิชาญ เผยว่า นึกว่าบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่แล้ว จึงเข้าไปหยิบของออกมา และนำไปวางไว้ในบ้านร้างฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นบ้านเก่าของนายกฤษฏ์ ผู้เสียหายที่กำลังจะย้ายออก เบื้องต้นให้การว่าพรุ่งนี้จะเดินทางกลับปราจีนบุรีด้วยขบวนรถไฟ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตร. สายตรวจ จึงให้นายวิชาญ พาไปยังบ้านร้างที่เก็บของเอาไว้ ซึ่งนายวิชาญเข้าไปสักพัก ก่อนจะยกกระสอบออกมาครั้งละ 2 ถุง 2 รอบ โดยรอบแรกมีมีด หินลีบมีด หัวชาร์ตโทรศัพท์มือถือของกฤษฏ์ ผู้เสียหาย และยังมีเหล็ก พระพุทธรูป เครื่องเงิน และแผ่นซีดีลามกอนาจารของคนอื่นที่นายวิชาญขโมยมา แต่ผู้เสียหายยังติดใจ เพราะพระสังกัจจายน์ที่วางไว้ในบ้านได้หายไป
ทำให้นายวิชาญต้องกลับเข้าไปในบ้านร้าง และหยิบกระสอบออกมาอีก 2 ถุง ก่อนจะเท รอบนี้มีเครื่องเล่นซีดี อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้ขโมยมา ก่อนจะพบพระสังกัจจายน์ ทำให้นายวิชาญนั่งคุกเข่าลง ยกมือไหว้เพื่อขอโทษนายกฤษฏ์ ผู้เสียหาย ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาตัวนายวิชาญ หัวขโมยไปยัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายกฤษฏ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ตนเองเก็บของไว้บางส่วนเพราะกำลังจะย้ายออก ไม่ได้กลับเข้ามา ซึ่งเมื่อช่วงหัวค่ำของวันนี้ได้กลับเข้ามา พบว่าหลังบ้านมีร่องรอยการงัดแงะ ข้าวของกระจัดกระจายและหายไป ตนเองจึงสอบถามเพื่อนบ้าน ได้บอกว่าพบเห็นนายวิชาญ ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเดินถือมีดอยู่ภายในซอย ก่อนจะเดินหายออกไป
ตนเองคิดว่าต้องเป็นนายวิชาญที่เป็นหัวขโมยเข้ามาขโมยของในบ้านตน แต่เนื่องจากนายวิชาญมีมีด จึงได้ไปแจ้งหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ให้ช่วยตามจับหัวขโมยรายนี้ ก่อนจะมีการประสานเจ้าหน้าที่ตร. สายตรวจ ให้เข้ามาคุมตัวได้ในที่สุด
