ภาคเอกชนขอนแก่น สงสัยทำไมรัฐบาลต้องปรับขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท เฉพาะกลุ่มโรงแรมและงานบริการ

ภาคเอกชนขอนแก่น สงสัยทำไมรัฐบาลต้องปรับขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท เฉพาะกลุ่มโรงแรมและงานบริการ

View icon 70
วันที่ 5 ก.ค. 2568 | 10.24 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ภาคเอกชนขอนแก่น สงสัยทำไมรัฐบาลต้องปรับขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท เฉพาะกลุ่มโรงแรมและงานบริการ โดยมองว่า ส่งผลกระทบแน่นอน แม้จะมีโครงการเที่ยวคนละครึ่งมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็กระตุ้นได้เพียงระยะสั้น

5 ก.ค.68 นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้า จ.ขอนแก่น และเจ้าของโรงแรมราชาวดี แอร์พอต ขอนแก่น เปิดเผยว่า การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ในกลุ่มสถานการณ์ประกอบการด้านบริการ และกลุ่มโรงแรมประเภทที่ 2 เป้าหมาย คือ การขึ้นค่าแรงตามที่ได้กำหนดนโยบายหาเสียงไว้ แต่อยากเป็นข้อคิด คือ การใช้อัตราเดียวกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในกลุ่มโรงแรมประเภทที่ 2 คือ มีห้องพักเกิน 50 ห้องขึ้นไป หรือ มีการให้บริการห้องอาหารนั้น เป็นสิ่งที่รัฐต้องทบทวน เนื่องจากอัตราค่าบริการโรงแรม ที่อยู่ในเมืองใหญ่ เมืองหลวง กับโรงแรมที่อยู่ในภูมิภาค อัตราค่าห้องพักไม่เหมือนกัน โรงแรมภูมิภาคหลักร้อยบาท ขณะที่เมืองหลวงหรือเมืองท่องเที่ยวหลักพันบาท เมื่อต้นทุนค่าแรงเท่ากันที่ 400 บาท จะมีผลในเรื่องต้นทุนของการบริหารจัดการ เพราะทุกวันนี้ธุรกิจโรงแรมไม่ได้มีอัตราการเข้าพักที่สูงมาก ยกกรณีศึกษาคือขอนแก่น ซึ่ง ธปท.ภาคอีสาน ได้มีการสำรวจแล้วพบว่าธุรกิจโรงแรม มีอัตราการเข้าพักและการดำเนินธุรกิจที่ลดลงเราอาจจะรู้สึกว่าเพิ่มขึ้นช่วงสงกรานต์ พอหมดช่วงเทศกาลหรือฤดูกาลหยุดยาว อัตราการเข้าพักก็ลดลงต่ำกว่าปกติ

“ผมสงสัยว่าทำไมรัฐบาล ถึงมองเฉพาะกลุ่มธุรกิจหรือธุรกิจบริการ ที่ต้องปรับอัตราค่าแรงตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการสวนทางกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจน ขณะที่ธุรกิจด้านอื่น ที่แรงงานทำอยู่ก็จะเกิดความเปรียบเทียบ และไม่มีคำตอบให้แรงงานว่าทำไมธุรกิจอื่นไม่มีการปรับ ซึ่งการจ้างงานลดลงนั้น ดูได้จากการเติบโตของธุรกิจ ทุกวันนี้โรงแรมส่วนใหญ่ถ้ามีพนักงานลาออก ก็จะไม่มีใครจ้างงานเพิ่ม จะปรับการให้ทำโอที การให้พนักงานทำหน้าที่ได้หลายด้าน หรือการจัดจ้างพนักงานแบบพาสไทมส์มาเสริม วันละ 3-5 ชม. หรือเฉพาะช่วงงานแต่ถ้านโยบายรัฐบาลบอกว่า 400 บาท ทุกที่จะเป็นปัญหา เพราะเมืองใหญ่มีการจ้างงานที่เท่ากับหรือมากกว่านโยบายอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานทักษะ แต่ถ้าเป็นโรงแรมในระดับภูมิภาค หรือในระดับอำเภอ จะได้่รับผลกระทบกับนโยบายนี้ชัดเจน”

นายเข็มชาติ กล่าวต่ออว่า นโยบายนี้ทำให้โรงแรมขนาดใหญ่นั้นเจ็บตัว ไม่ใช่ว่ายิ่งใหญ่ยิ่งได้ดี แม้อัตราเข้าพักจะมากหรือจะน้อยแต่อัตราต้นทุนคงที่่ เพราะเราต้องจ้างแม่บ้าน,พนักงานต้อนรับ,จัดเลี้ยงและแผนกอื่นๆ แต่ทุกวันนี้ในต่างจังหวัดอัตราการเข้าพักไม่ถึงร้อยละ 50 ในฐานะของผู้ประกอบการธุรกิจด้านการบริการและโรงแรมต้องขอขอบคุณนโยบายของรัฐบาลที่ได้เปิดโครงการเที่ยวคนละครึ่งออกมา ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มการท่องเที่ยวในประเทศได้มากและได้ดียิ่งขึ้น  เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงนี้นั้นลดลง แต่ด้วยกำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทั้งนั้นลดลง

ดังนั้นนโยบายการสนับสนุนเที่ยวคนละครึ่งจะกระตุ้นได้บ้างแต่ก็เป็นมาตรการระยะสั้น โดยโครงการนี้สิ้นสุดเดือน ต.ค. ซึ่งก็จะเยียวยาและกระตุ้นได้บ้างแต่สิ่งที่ต้องการคือการสร้างความยั่งยืนเพราะงบประมาณที่ใช้นั้นอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำไมไม่ขยายไปถึงฤดูท่องเที่ยวช่วงปลายปี จึงหวังว่านักท่องเที่ยวในประเทศ จะมาเป้นกำลังซื้อทดแทนได้อย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง