ผลสำรวจสวนดุสิตโพล ชุมนุมทางการเมืองปี 2568 ในสายตาคนไทย

ผลสำรวจสวนดุสิตโพล ชุมนุมทางการเมืองปี 2568 ในสายตาคนไทย

View icon 152
วันที่ 6 ก.ค. 2568 | 11.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นคนไทยต่อการชุมนุมทางการเมือง ปี 2568 ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หวังนายกฯ ลาออก ยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร

วันนี้ (6 ก.ค.68) มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจสวนดุสิตโพล เรื่องความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “การชุมนุมทางการเมืองในสายตาคนไทย 2568” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,167 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 1-4 ก.ค.68 ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่า การชุมนุมแม้สร้างการมีส่วนร่วม แต่ยังกังวลเรื่องความรุนแรง ส่วนใหญ่ไม่สนใจเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองเลย โดยผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างไม่สนใจเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง 38.39% ขณะที่อีก 30.68 %  แม้จะยังไม่เคยเข้าร่วม แต่แสดงความสนใจว่าจะเข้าร่วมในอนาคต

เมื่อถามถึงบทบาทของการชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบันต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ ส่วนใหญ่มองว่า มีบทบาทในระดับปานกลาง 48.93% และ 26.48% เชื่อว่ามีบทบาทมาก สำหรับจุดเด่นของการชุมนุมทางการเมือง มองว่าการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คิดเป็น 55.28% อย่างไรก็ตาม ด้านจุดด้อยของการชุมนุม ส่วนใหญ่มองว่า มีความเสี่ยงต่อความรุนแรง 48.16% และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 47.13%

เมื่อถามถึงการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คาดหวังให้เกิดการลาออกของผู้นำรัฐบาล คิดเป็น 58.58% รองลงมาคือการยุบสภา หรือการเลือกตั้งใหม่ 57.03%

กรณีสมมติว่าหากเกิดการรัฐประหารในสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าเป็นการละเมิดระบอบประชาธิปไตย คิดเป็น 42.50% อย่างไรก็ตาม ยังมี 28.96% ที่เห็นว่าหากเป็นทางออกจากวิกฤติทางการเมืองก็อาจยอมรับได้ ขณะที่อีก16.80% ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง และ 11.74% ไม่มีความเห็นหรือยังไม่แน่ใจ

6869fb35629297.51648713.jpg

นส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล และ ผศ.กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มสด. วิเคราะห์ผลสำรวจ ว่าจากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่สนใจเข้าร่วมการชุมนุม รับรู้ถึงคุณค่าของการมีส่วนร่วมและการแสดงออกทางการเมือง แต่ยังมีความกังวลด้านความปลอดภัยและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะตามมา แม้ประชาชนจะมีความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองผ่านการชุมนุม แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร เพราะต้องการให้การเมืองมีความเป็น ประชาธิปไตยที่แท้จริงมากกว่า

ทั้งนี้ผลการสำรวจข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของภาพสะท้อนการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.68 กิจกรรมการชุมนุมเกิดขึ้น เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจในนโยบายของรัฐบาลไทยต่อประเด็นความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา และท่าทีของนายกรัฐมนตรีไทยต่อปัญหาดังกล่าว การชุมนุมครั้งนี้เนี้ป็นการชุมนุมใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นครั้งรั้แรกในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

การมีส่วนร่วมทางการเมืองและการแสดงออกของประชาชน สอดคล้องกับผลสำรวจที่เชื่อว่าการแสดงออกทางการเมืองในรูปแบบดังกล่าวจะสามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง หรือการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งตั้ใหม่ อันเป็นไปตามแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยและต้องไม่ใช้การรัฐประหารเป็นทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองเหมือนเช่นที่ผ่านมา