สาวร้องสื่อถูกอดีตสามีบุกทำร้าย

สาวร้องสื่อถูกอดีตสามีบุกทำร้าย

View icon 269
วันที่ 6 ก.ค. 2568 | 16.51 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวช้ำทั้งกายและใจ ขอเลิกกับสามี เป็นถึงอดีต กก.ตร.เพราะจับได้ยังไม่เลิกรากับเมียเก่า โมโหบุกตามทำร้ายร่างกาย ทั้งตบ ตี กระทืบ กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้

วันนี้ ( 6 ก.ค. 68) สาวร้องสื่อถูกสามีบุกทำร้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงได้ไปแจ้งความไว้หลายครั้ง ทั้งเรื่องที่เคยถูกทำร้าย ทั้งเรื่องที่บุกมาทุบรถ แต่เรื่องก็เงียบตลอด เพราะฝ่ายชายเป็นถึงอดีต กก.ตร. ตำรวจทุกคนต่างพากัน เกรงใจผู้ก่อเหตุ ไม่มีใครกล้ายุ่ง หลังเกิดเหตุฝ่ายชายขู่จะตามมาฆ่าทุกคนในบ้าน และได้ลบภาพวงจรปิด ขณะลากสาวผู้เสียหายออกจากบ้านลบทิ้งไป แต่โชคดีที่กู้ภาพวงจรปิดมาได้บางส่วน

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าว เป็นภาพทางฝ่ายผู้เสียหายและน้องรวมสามคนกำลังนั่งอยู่ในบ้าน จู่ ๆ ได้ยินเสียงทุบกระจกประตูบ้านดังสนั่น จากนั้นฝ่ายชายได้บุกเข้ามาภายในบ้าน และเข้ามากระชากผมผู้เสียหาย พร้อมทั้งตบที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง และพูดว่ามึงทำแบบนี้กับกูได้ไง จังหวะนั้นแม่ของผู้เสียหาย และน้องสาวที่นั่งอยู่ด้วยช่วยกันห้าม แต่ฝ่ายชายก็ยังไม่หยุด และบอกว่ามึงออกไป มึงไม่เกี่ยว อย่ายุ่งเรื่องผัวเมีย กูไม่ไหวแล้ว ต่อให้กูติดคุกก็ยอม

แม่ของผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันที่ลูกสาวถูกทำร้าย เขาไม่สนใจใคร ทั้งตบทั้งเตะทั้งกระทืบ จิกผมลูกแม่ แม่ก็กอดลูกไว้และห้าม แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาถือขวดเหล้ามาจะตีลูกสาวคนเล็กก็ยกมือไหว้ขอร้องไม่ให้ทำพี่ ส่วนแม่ไม่กล้าพูดอะไรกลัวว่าเหตุการณ์จะแรงกว่านี้ ตอนนั้นแม่ไม่ได้สติแล้ว เขาจะลากออก แต่ตรงนี้มันกระจกแตก แม่เลยบกอย่าลากมาทางนี้เขาก็แบกลูกออกไป เขาจะเป็นแบบนี้ตลอด บางทีลูกสาวไม่อยู่ เขาก็มาไล่ทุบบ้านรอบเลย เราก็มีแต่ผู้หญิงอยู่กันข้างบน เราก็ไม่รู้จะทำไง เขามีปืนเราก็กลัว พอเกิดเรื่องแม่ก็ให้ลูกโทรหา รปภ.และแจ้งตำรวจ เขาคงต้องการมาง้อ เพราะพอทะเลาะกันลูกแม่เขาก็ไปทำงาน เพราะเขาทำงานเป็นเซลล์ก็จะไปหลายจังหวัด เขาก็จะมาตามที่บ้าน คิดว่าลูกแม่อยู่บนบ้าน เขาก็จะปาอะไรขึ้นไปข้างบน อยากให้เลิกยุ่งกับลูกสาว เราก็กลัวไม่ปลอดภัย

ด้านผู้เสียหาย มีร่องรอยถูกทำร้าย ฟกช้ำตามร่างกายทั้งลำคอและแขนขา บาดแผลจากขวดเหล้าบาด เผยกับผู้สื่อข่าวว่า คบหากับฝ่ายชายมาประมาณสี่ปีและทะเลาะกันมาสามปี ทะเลาะและตีแบบนี้มาตลอด เขาชอบเมาและควบคุมสติตัวเองไม่ได้ และจะอาละวาด เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก็มีการทะเลาะกันและขอเลิก เพราะเราจับได้ว่าเขากับคนเก่ายังไม่เลิกรากัน จากนั้นเราก็ใช้ชีวิตปกติ และทำงานตามปกติ เขาก็ไปตามอาละวาดที่ทำงานจนหนูต้องออกจากงาน ก็มีเรื่องกันและไปโรงพัก คือหนูไม่อยากมีปัญหาก็เลยถอนแจ้งความให้ และขอให้แยกย้าย จนครั้งล่าสุด หนูพยายามสงบสติอารมณ์กิาข้าวคนเดียว เขาก็เดินเข้ามาที่ร้าน เขาก็เตะโต๊ะหาเรื่อง และตามมาหาเรื่องที่ลานจอดรถอีก เราก็ฟิวส์ขาดก็ทะเลาะกัน เราก็พยามเลี่ยงและขับรถกลับบ้าน เขาก็ขับปาดหน้าให้เราชน เราก็ชน ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรแล้วฟางเส้นสุดท้าย เราไม่ยอมแล้ว แล้วก็กลับมาบ้าน เขาก็ตามมาเคลียร์ ถีบรถกูทำไม แล้วหนูเป็นแพนนิก บางทีหนูก็หลุดเหมือนกัน มาเป็นตอนที่อยู่กับเขา หนูก็ทนไม่ไหว คว้าคัตเตอร์วิ่งไล่เขา กรีดรถเขา ระหว่างนั้นเขาก็โมโห คว้าหินมาทุบรถหนู หนูก็ทุบรถเขาเหมือนกัน พอเขาเห็นรถเขาพัง เขาก็ทุบรถเราทั้งคันเลย เราก็โทรเรียกตำรวจ แต่กว่าตำรวจมาก็นาน ปกติเขาคนอารมรณ์ร้าย เขาหาเรื่องเพื่อที่จะหาเรื่องเข้ามุมขอคืนดี ทำให้เราเป็นคนผิด ตั้งแต่วันที่ทุบรถ จนวันนั้นแม่เขาโทรมา เขาบอกว่ามันรุนแรงมากแล้ว เขาทนไม่ไหว และเราก็ไม่มีความสุข แม่เขาก็บอกว่าก็แยกย้ายกัน ส่วนลูกชายแม่ แม่ก็จัดการ แม่เขาบอกว่าเขาคุยแล้ว แต่มันไม่ฟัง เราก็เลยบอกว่าให้หนูดำเนินคดีไหม แล้วแม่เขาบอกว่า แล้วทำไมจะต้องให้มีปัญหา ส่วนตัวเราเองไม่ได้อยากมีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล เราก็บล็อกทุกทาง โทรมาด่าบ้าง ขอโทษบ้าง

จุดที่โมโหที่สุด เป็นเรื่องลูก เขามีลูกสามคน ส่วนเรามีลูกหนึ่งคน เขาด่าว่าลูกมึงเดี๋ยวก็เป็นแบบมึงร่าน เราก็โมโหและด่ากลับแล้วลูกมึงล่ะ สมาธิสั้น พูดก็ไม่ชัดเหมือนเอ๋อ ทำไมไม่ไปรักษา หนูก็บล็อกหนูนั่งกินกับน้องหนู แต่รปภ.บอกว่าเมื่อช่วงเย็นเห็นเขามาวนเวียน หนูก็กำชับว่าอย่าให้เขามา หนูก็เข้าใจรปภ.เขาก็กลัว สรุปเขาเข้ามาก็ตามในคลิป

ตอนนั้นคือโดนตบก็เหมือนชาไปเลย ที่หนูยอมไปกับเขาตอนนั้น เพราะห่วงคนในบ้าน กลัวเขาทำร้ายแม่และน้อง เขาก็พาขับรถวนๆ แล้วบอกว่าเราจะตายพร้อมกันไหม เขาก็พาไปที่บ้านเขา ก็ตีกันในรถ แล้วเท้าเราไปโดนแตร เสียงดังแม่เขาก็เลยออกมา และคำแรกที่แม่เขาพูดบอกว่า เมื่อไหร่จะเลือกสร้างปัญหา เราก็ทำอะไรผิด เราอยู่เฉยๆ แม่เขาก็ร้องไห้ เขาก็มาตีเราอีกหาว่าทำให้แม่เขาร้องไห้ ตอนเย็นเราก็ขอให้เขาพากลับบ้าน เพราะแม่เป็นห่วง เขาก็ไม่ให้ไป ก่อนหน้านี้เราก็มีช่วยงานเขา แต่รู้สึกเหมือนโดนหลอกใช้ เราช่วยเขาทำงานเงินเขาก็ไม่ได้ให้เรา แต่เงินไปส่งเสียลูกเขาเมียเก่าเขา เราก็ร้สึกเหมือนโดนหลอก เราก็อยากให้จบกันไป อยากให้แมเขาช่วยดูแลลูกเขา

ล่าสุดผู้เสียหายเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและส่งตัวไปตรวจร่างกาย ยืนยันจะดำเนินคิดให้ถึงที่สุดเพราะหวั่นเรื่องความปลอดภัย ด้านตำรวจได้เร่งสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง