เช้านี้ที่หมอชิต - ยังต้องลุ้นกันอย่างหนัก สำหรับการจัดเก็บอัตราภาษีสินค้าของไทย ที่จะส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งตามที่มีการแถลงครั้งก่อนของ "โดนัลด์ ทรัมป์" เมื่อเดือนเมษายน ทางการไทยจะโดนกำแพงภาษี 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องเร่งเจรจาลดลงให้มากที่สุด
หลังจากที่ "ทีมไทยแลนด์" บินไปเจรจากับคณะทำงานของสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป หลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง รวมไปถึงภาคเอกชน ต้องการให้ทีมไทยแลนด์เปิดเผยรายละเอียดต่าง ๆ ในการพูดคุย กับคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ
แต่ นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าการพูดคุยยังถือเป็นชั้นความลับ ที่เปิดเผยไม่ได้ตามข้อตกลงและมารยาทการเจรจา เพราะมีข้อเจรจาที่ยังต้องพิจารณากันอีก
นายพิชัย มองว่าการที่สหรัฐฯ คุยกับทีมไทยแลนด์ เป็นสัญญาณชี้ไปในทางบวก เพราะยังเปิดโอกาสให้ทำงานร่วมกัน เพื่อหาจุดลงตัวของทั้ง 2 ประเทศ หลังจากนี้ทีมไทยแลนด์จะส่งข้อเสนอที่ปรับใหม่กลับไปให้สหรัฐฯ ก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม ตามกำหนด ส่วนกระแสข่าวไทยจะถูกจัดเก็บอัตราภาษี 18-36 เปอร์เซ็นต์นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า "สภาพัฒน์ฯ" คาดว่าสหรัฐฯ อาจจัดเก็บภาษี 18 เปอร์เซ็นต์ โดยพิจารณาจาก 3 ประเทศที่เจรจาไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งจีน อังกฤษ และเวียดนาม ซึ่งตัวเลขหากต่ำกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นผลดีกับไทยมากกว่า
อย่างที่รายงานกันไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เวียดนาม หนึ่งในชาติอาเซียน ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ส่งผลให้อัตราภาษีถูกเรียกเก็บประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จากที่ก่อนหน้านี้ถูกประกาศเก็บภาษีสูงถึง 46 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องยอมให้สหรัฐฯ ส่งสินค้าไปยังเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษี สินค้าที่มีการสวมสิทธิ์โดยผ่านเวียดนาม จะถูกเรียกเก็บที่ 40 เปอร์เซ็นต์
หลังจากนี้ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่า ได้ลงนามในจดหมายถึง 12 ประเทศ เพื่อแจ้งอัตราภาษีที่จะจัดเก็บจากประเทศเหล่านั้น และกำลังจะถูกส่งออกภายในวันนี้ (7 ก.ค.) ซึ่งหลังจากนั้นคาดว่าประเทศที่ยังไม่ได้ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ภายในวันที่ 1 สิงหาคม จะต้องเจอกับอัตราภาษีที่ถูกประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งของไทยคือ 36 เปอร์เซ็นต์
