"บิ๊กเต่า" เผยพบหลักฐานสีกา ก.ไก่ ส่งรูป-แชทไลน์ ไม่เหมาะสมส่งหาพระ ลักษณะแบล็คเมลจริง! เบื้องต้นเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีใครถูกดำเนินหรือไม่ ขอเวลาทำงานตามแนวทางของสอบสวนกลางก่อน เชื่อเรื่องจบภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ให้ทำงานเชิงรุก เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับคืนมา
วันนี้ (7 ก.ค. 68) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยภายหลังการประชุมความคืบหน้าการหาข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพวรวิหาร รวมไปถึงการเชิญสีกา ก. ไก่ หญิงสาวคนสนิทของพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสฯ มาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้นานร่วม 3 ชั่วโมง ว่าวันนี้ได้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อแบ่งงานให้แต่ละกองไปทำ เพราะข้อมูลที่เราได้มา มีเยอะพอสมควร และยังมีประเด็นที่จะต้องไปขยายผลต่างๆ เพิ่มให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเราเน้นไปที่ประเด็นสีกา ก.ไก่ เป็นหลัก
เราทำงานเรื่องอาญาไปด้วย เรื่องวินัยไปด้วย ซึ่งการดำเนินการ เราจะต้องยึดตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งก็คืบหน้าไปเรื่อยๆ ใจจริงก็อยากให้จบภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ให้ได้ โดยเรายังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในทุกๆ มิติ ยังไม่อยากพูดถึงการดำเนินคดีไปก่อน
ส่วนหลักฐานที่ตรวจค้นจากบ้านสีกา ก.ไก่ เบื้องต้นเราพบเส้นเงินพระมาหาสีกา ก.ไก่ พอสมควร แต่ขอยังไม่เปิดเผย ขอไปสืบสวนต่อก่อน แต่รวมๆ แล้วเป็นเงินก้อนใหญ่
นอกจากนี้หลักฐานในโทรศัพท์ของสีกา ก.ไก่ ก็มีทั้งคลิป แชทข้อความไลน์ ที่พบว่ามีการติดต่อผ่านบุคคลอื่นเข้ามาด้วย ลักษณะส่งรูปภาพวับ ๆ แวม ๆ มาให้ พฤติกรรมเหมือนกับเป็นการแบล็คเมลประมาณนั้น
ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีพระสงฆ์รูปใด เข้ามาแจ้งความสีกา ก.ไก่ แม้พฤติกรรมบางส่วนจะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ก็ตาม
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังย้ำอีกว่า จริง ๆ ไม่อยากพูดรายละเอียดอะไรมาก เพราะอยากให้หลักฐานที่ได้มาสอดคล้องกับคำให้การ โดยไม่มีการปกปิดอะไร และจะต้องดูจากหลักฐานที่ตรวจยึดมาด้วย ว่าสีกา ก.ไก่ มีพฤติกรรมหรือการกระทำใดๆ ที่แสดงถึงการเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับใครบ้าง ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นพระเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป็นคนที่มีเงิน หรือเป็นคนที่ให้เงินเขาได้
เมื่อถามถึงประเด็นเจ้าอาวาสฯ วัดดัง ที่สึกเงียบ หลังมีสัมพันธ์กับสีกา ก.ไก่ จนมีลูกนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่า “เรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง กำลังทำทั้งหมด แต่ไม่อยากให้ไปโฟกัสเด็ก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน”
ส่วนเรื่องการเซ็นรับรองบุตรนั้น ตรงนี้ก็ต้องไปว่าต่อ แต่เขาสำนึกแล้ว ใครที่กระทำผิดวินัยสงฆ์ ถึงขั้นอาบัติปาราชิก ก็ตามนั้น
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังบอกอีกว่า เรายังได้ประสานข้อมูลกับทางตำรวจไซเบอร์ด้วย หลังวันนี้ทราบว่ามีการเข้าไปตรวจค้นบ้านของสีกา ก.ไก่ เพิ่ม โดยก็ได้ข้อสรุปว่าได้บอกเขาไปว่าขอให้สอบสวนกลางทำงานสืบสวนเรื่องนี้ก่อน ซึ่งเขาก็ยอมถอยให้ตำรวจเราดำเนินการเต็มที่ แต่ประเด็นที่ตำรวจไซเบอร์เรียกสีกา ก.ไก่ ไปสอบวันนี้ ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน คาดว่าเกี่ยวกับเรื่องเว็บพนัน และมันก็คนละเรื่อง เรื่องที่เราทำอยู่เป็นเรื่องของความสำนึก ที่เขาได้กระทำลงไป และทุกวันนี้ก็ยังสามารถพูดคุยติดต่อกันกับสีกา ก.ไก่ได้ เขาให้การเป็นประโยชน์
โดยหลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องทำงานเชิงรุกให้มากกว่านี้ เมื่อพบเห็นพระที่กระทำไม่ถูกต้อง ไม่ควรดองไว้ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายหลายเคส หลายปัญหา ทำให้เรื่องไม่จบ จนกระทั่งเกิดความเสียหายขนาดนี้ มนุษย์ทั่วไปมีโลภ โกรธ หลง แม้พยายามจะตัดกิเลส แต่เมื่อมีคนพยายามมาทำอะไรแบบนี้ ก็มีหลงผิดไปบ้าง
อย่างไรก็ตามพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังฝากไปถึงพระที่กระทำผิด ท่านต้องเจอกับผมอยู่ดีในไม่กี่วันนี้ ถ้าลาสิกขาได้ ก็ลาไป แต่เรามีหลักฐาน เราก็จะประสานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่ให้เข้ามาบวชอีก