แม่ทัพภาคที่ 2 เผยไทย-กัมพูชา นัดพบเจรจาไร้อาวุธสัปดาห์ละ 3 วัน

แม่ทัพภาคที่ 2 เผยไทย-กัมพูชา นัดพบเจรจาไร้อาวุธสัปดาห์ละ 3 วัน

View icon 179
วันที่ 9 ก.ค. 2568 | 14.43 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“จันทร์ พุธ ศุกร์” ทหารไทย-กัมพูชา นัดพบเจรจาไร้อาวุธสัปดาห์ละ 3 วัน แม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อทุกอย่างจะจบก่อนเกษียณราชการในอีก 2 เดือน เดินหน้าสร้าง-ซ่อม ชายแดน ภูมะเขือ- รวงผึ้ง หลังไม่ได้พัฒนาตั้งแต่ปี 54

วันนี้ (9 ก.ค.68) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุถึงกรณีนัดพบพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา ว่า พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตมีการนัดพบกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อเจรจาสัปดาห์ละ 3 วัน โดยปราศจากอาวุธ ประกอบด้วยวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ซึ่งทุกวันนี้ยังมีการนัดพบกันอยู่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์มีความคลี่คลายไปในเชิงบวก ในทุกจุดของชายแดน โดยทหารในพื้นที่ต้องการที่จะไม่ปะทะหรือสู้รบ แต่ขึ้นอยู่กับผู้นำรัฐบาลที่ต้องไปพูดคุยกัน และส่งสัญญาณลงมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร

ส่วนนโยบายของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มีความห่วงใยประชาชนนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ซึ่งที่ทำอยู่ในขณะนี้ก็ทำตามนโยบายของ ผบ.ทบ. โดยดำเนินการตามนโยบายทุกอย่าง รวมถึงการให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาหน้าแนว รวมทั้งการดูแลความเป็นอยู่หรือทุกอย่าง ก็ต้องขออนุมัติจาก ผบ.ทบ. รวมถึงนโยบายการเปิดปิดด่าน และการเข้าถึงจุดต่าง ๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงพื้นที่แนวต้นพญาสัตบรรณ มีการดูแลอยู่ใช่หรือไม่ พล.ท.บุญสิน ย้ำว่า  ยังมีการดูแลอยู่ และ เป็นจุดที่นัดเจอกันในบริเวณนั้น และมีการปักปันเขตแดนเสร็จแล้ว แต่มีการอ้างอิงแผนที่คนละฉบับ ซึ่งอาจมีเหลื่อมกันบ้าง โดยภูมิประเทศกับแผนที่อาจจะไม่ตรงกันอยู่บ้าง 

ส่วนจะมีการริเริ่มสร้างศาลาตรีมุขขึ้นใหม่ หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอสถานการณ์ดีขึ้น และความสัมพันธ์ดีขึ้น ก็จะมีการพัฒนาแต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลทั้งสองประเทศ ซึ่งอาจมีการปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

พล.ท.บุญสิน ย้ำว่า  ทหารไทยไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบอยู่แล้ว แต่ในฐานะหน้าที่ทหารก็ต้องปกป้องอธิปไตย และมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แม้จะมองว่าการประทะกันไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไร แต่หากจำเป็นก็ต้องปกป้องแผ่นดินไทย พร้อมระบุว่า ไม่อยากให้มีการเปรียบเทียบศักยภาพทหารของทั้งสองฝ่าย สถานการณ์ช่วงนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น มั่นใจว่าทุกอย่างจะจบก่อนผมเกษียณอายุราขชการภายใน 2 เดือนนี้

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังระบุว่า ขณะนี้กำลังมีการสร้างถนนขอบพื้นที่รวงผึ้ง อุทยานแห่งชาติภูจอง- นายอย และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ในการท่องเที่ยวรวมถึงช่วยในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ หน่วยทำเป็นรูปตัวอยู่และเครื่องหมายบวก ซึ่งดำเนินการเคลียร์กับระเบิดบริเวณแนวเส้น k-5 อยู่แล้ว  ซึ่งอยู่ในเขตของไทยสามารถทำได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วย บัญชาการ ทหารพัฒนากรมการทหารช่าง และช. พัน 6 โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ

แม่ทัพภาคที่2 ยอมรับว่าเส้นทางในภูมิประเทศของไทยตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาต้องได้รับการปรับปรุง ทั้งในส่วนถนนขึ้นภูมะเขือ และบริเวณหลวงผึ้ง เนื่องจากสภาพพื้นที่ ถูกกัดเซาะทำลายจากปริมาณน้ำฝนเพราะเป็นดินลูกรัง หลังสถานการณ์สู้รบเมื่อปี2554 ก็พยายามที่จะซ่อมแซมมาตลอด  ในวันนี้ต้องมีการทบทวน พัฒนาให้มีความถาวรมากขึ้น เพื่อให้ง่ายในการปฏิบัติ เพื่อสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม รวมถึงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง