ผู้ส่งออกแนะ 3 แนวทางรับมือสหรัฐฯ รีดภาษี

ข่าวภาคค่ำ - ผู้ส่งออกฯ แนะทางรอด หวั่นสหรัฐฯ รีดภาษีไทย 36% ทำภาคส่งออกสูญ 2 ล้านล้านบาท ด้านหัวหน้าทีมไทยแลนด์ ย้ำยังสู้ไม่ถอย

ผู้ส่งออกแนะ 3 แนวทางรับมือสหรัฐฯ รีดภาษี
นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ประเมิน ผลกระทบจาการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ที่ 36% สูงกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ต้นทุนส่งออกสินค้าไทยสูงขึ้นจนไม่สามารถแข่งขันได้ และจะกระทบต่อมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ สูงถึง 2 ล้านล้านบาท หวั่นปัญหาจะขยายวงกว้าง พร้อมแนะทางรอด 

ได้แก่ 1.) การปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% ให้มากที่สุด ในรายการสินค้า ที่ยอมรับได้, 2.) หาตลาดศักยภาพอื่นทดแทน และ 3.) จัดทำข้อเสนออื่นเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก

ภาษีสหรัฐฯ กระทบการลงทุนใน EEC 18%
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เร่งเดินหน้าเชื่อมโยงประโยชน์การลงทุนสู่พื้นที่ชุมชน โดยรอบนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ EEC ช่วงนี้นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุน เพื่อรอติดตามสถานการณ์การเจรจาทางภาษีระหว่างไทย-สหรัฐฯ คาดว่า พื้นที่ EEC ได้รับผลกระทบด้านการลงทุนราว 18% ส่วนใหญ่ในธุรกิจเกี่ยวกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอาหาร แนะผู้ประกอบการ หาตลาดใหม่ และมองว่า สินค้าบางรายการอาจได้ประโยชน์

กค.เตรียมงบฯ รับมือผลกระทบภาษีสหรัฐฯ
ด้าน หัวหน้าทีมไทยแลนด์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมพิจารณาปรับลดงบประมาณ รับมือภาวะเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ย้ำ ตอนนี้ภาษีส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ 10% เหมือนเดิม ส่วนทีมเจรจาไทย ยังสู้ไม่ถอย เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

แนะเปิดเสรีธนาคาร-โทรคมนาคม ต่อรองสหรัฐฯ
ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตอบในฐานะประชาชนคนหนึ่งว่า ไทยยังมีโอกาสในการเจรจากับสหรัฐฯ ขณะที่ ผู้นำฝ่ายค้าน อย่าง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ติงรัฐบาลเจรจาช้าไป และต่อไปเจรจายากขึ้น พร้อมแนะรัฐบาล เปิดเสรีภาคบริการ เช่น ธนาคาร ธุรกิจโทรคมนาคม เป็นข้อเสนอที่ทั้งสหรัฐและไทย วิน-วิน ทั้งคู่

มาเลเซีย เรียกร้องความเข้มแข็งการค้าในอาเซียน
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) ของมาเลเซีย แม้จะไม่ได้กล่าวถึงสหรัฐฯ โดยตรง แต่เรียกร้องให้ชาติสมาชิกอาเซียน เพิ่มการค้าระหว่างกันให้เข้มแข็งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน และความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็น "เครื่องมือที่แหลมคมของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์"