คลิปปะทะคารม ทหารไทย-กัมพูชา ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี

View icon 182
วันที่ 10 ก.ค. 2568 | 07.08 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยังมีประเด็นให้ต้องจับตาทุกวัน ล่าสุดปรากฏคลิปทหารไทย-กัมพูชา โต้เถียงกันที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ

คลิปปะทะคารม ทหารไทย-กัมพูชา ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
คลิปเหตุการณ์ทหารกัมพูชา ปะทะคารมกับทหารไทย บริเวณช่องอานม้า ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ลักษณะพยายามเข้ามาใกล้ ๆ เขตแดนกับฝั่งไทย และพูดเสียงดังคล้ายกับโต้เถียงกัน

ทบ.แจงปมโต้เถียง ทหารไทย-กัมพูชา ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 9 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. สื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอโต้เถียงกัน ระหว่างทหารไทย และทหารกัมพูชา ลงโซเชียล

ตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าทหารไทย มีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ ๆ 

แต่เมื่อเข้ามาใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตน ขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันตามที่ปรากฏคลิป แต่ทั้งสองฝ่ายได้อธิบายทำความเข้าใจกันแล้ว

ขณะที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้นำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชา ปล่อยคลิปทหารไทยมีปากเสียงกับทางทหารกัมพูชา ที่ช่องอานม้า ระบุว่า อย่าใช้อารมณ์ดูคลิป เพราะบางครั้งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ยืนยันความสัมพันธ์ทหารสองฝ่ายอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีปัญหาอะไร

ก่อนจะเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๒๓ (ค่ายพิทักษ์อุทุมพรเขต) พลโท บุญสิน ได้ร้องเพลงจดหมายจากแนวหน้า ของยอดรัก สลักใจ ร่วมกับ นายเสถียร สุภากุล หรือเสถียร ทำมือ นักร้องเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิต

ส่วนกรณีนัดพบพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา ว่าพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต มีการนัดพบกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อเจรจาสัปดาห์ละ 3 วัน ก็คือ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ ปราศจากอาวุธ ทุกวันนี้ยังมีการนัดพบกันอยู่ ปัจจุบันสถานการณ์มีความคลี่คลายไปในเชิงบวก ทุกจุดตลอดแนวชายแดน โดยทหารในพื้นที่ไม่ต้องการปะทะ หรือสู้รบ แต่ขึ้นอยู่กับผู้นำรัฐบาล ต้องไปพูดคุยกัน และส่งสัญญาณลงมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร

ทหารไทย ไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบอยู่แล้ว แต่ในฐานะทหาร ก็ต้องปกป้องอธิปไตย และมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ มองว่าการปะทะกัน ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ แต่หากจำเป็น ก็ต้องปกป้องแผ่นดินไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง