พุทธศาสนิกชน จังหวัดพิษณุโลก ร่วมทำบุญตักบาตรที่วัดใหญ่ เพราะยังยึดมั่นในหลักธรรมสอนพระพุทธศาสนา ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เผย เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ยังติดต่อไม่ได้ และไม่สามารถยืนยันได้ว่าสึกแล้วจริงหรือไม่
วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 ที่ศาลาพิบูลธรรม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา มีเหล่าข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกมาร่วมทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารเช้ากันอย่างคึกคักเหมือนเช่นปกติ โดยมี พระเทพรัตนมุนี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้นพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันฟังเทศน์ประวัติความเป็นและความสำคัญของ วันอาสาฬหบูชา เพื่อขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใส ซึ่งถือว่าเป็นบรรยากาศการทำบุญที่ชาวจังหวัดพิษณุโลก ยึดถือปฏิบัติกันมาโดยตลอดในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
โอกาสนี้ นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เป็นประธานถวายเทียนพรรษาวัดใหญ่ เนื่องในวันเข้าพรรษา และร่วมกับพุทธศาสนิกชนทุกคน ถวายผ้าป่าผ้าอาบน้ำสงฆ์แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วย ก่อนที่จะได้ไปร่วมกันเวียนเทียนในช่วงเย็นถึงค่ำวันนี้
เรืออากาศโทหญิง ภิญญดา ภูชิตนันท์ ชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่ได้มาร่วมทำบุญตักบาตรในวันนี้กับทุกคน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่องราวต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกับแวดวงพระสงฆ์ในขณะนี้ว่า ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่ได้เกี่ยข้องกับพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนายังมีหลักธรรมคำสอนเหมือนเดิม ยังมีความศรัทธราจากพุทธศาสนิกชนเหมือนเดิม และการเดินทางมาทำบุญในครั้งนี้ เป็นความศรัทธราที่มีต่อพระพุทธศาสนาเหมือนเดิม ซึ่งเราศรัทธาที่ศาสนาและคำสอน ไม่ได้ศรัทธราที่ตัวบุคคล
และหลังจากเสร็จพิธีสงฆ์ในช่วงเช้า พระเทพรัตนมุนี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรตันมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางสุวลักษณ์ อภิวัชญ์ธนิน ได้สอบถาม กรณีมีข่าวว่า พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาแล้ว ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะว่าภายในวัดก็ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้
นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยหลังจากเข้าพบเจ้าอาวาสวัดใหญ่ว่า ตามที่มีข่าวว่า พระราชรัตนสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก มีข่าวว่าพัวพันกับสีกา ก. ตามที่ปรากฏในสื่อมวลชน ทางจังหวัดพิษณุโลกได้มอบหมายให้ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ
ซึ่งได้รับรายงานว่า ขณะนี้ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ยังไม่สามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์มือถือ และได้ติดต่อไปยังเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ก็ยังไม่พบว่าเดินทางไปไหน เป็นข้อมูลที่ทางจังหวัดพิษณุโลกที่ได้ทำการตรวจสอบ แต่อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ทางด้านคณะสงห์ จะเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะภาค ที่จะเข้ามาดูแล หากขณะนี้ไม่มีเจ้าคณะจังหวัดก็จะมีการแต่งตั้งรักษาการแทน ส่วนประเด็นลาสิกขา นั้นยังคงเป็นข้อสงสัย ว่าเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกสึกหรือยัง เรื่องนี้จังหวัดพิษณุโลก ไม่ทราบข้อเท็จจริง
ขณะนี้ยังให้ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ได้ตรวจสอบอยู่ หากทราบว่าท่านได้สึกที่ไหนอย่างไร ก็จะได้แจ้งอย่างเป็นทางการและรายงานไปยังเจ้าคณะภาคให้ทราบต่อไป ดังนั้น ณ เวลานี้ ยังไม่ทราบว่าท่านอยู่ที่ไหน ท่านสึกจริงหรือไม่อย่างไร
