สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 10 ก.ค. 2568
1."ทรัมป์" ส่งหนังสือรอบสอง แจ้งอัตราภาษีใหม่ให้กับอีก 8 ประเทศ บราซิลอ่วมถูกเก็บภาษีสูงถึง 50 %
วานนี้ (9 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" แห่งสหรัฐฯ ส่งหนังสือแจ้งอัตราภาษีใหม่เป็นรอบที่สองให้กับอีก 8 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย, อิรัก, ลิเบีย, ศรีลังกา, ฟิลิปปินส์, บรูไน, มอลโดวา และบราซิล
โดยส่วนบราซิลอ่วมหนักถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงถึง 50 % จากเดิม 10 % โดยทรัมป์กล่าวหาว่า บราซิลโจมตีบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และดำเนินการ "ล่าแม่มด" ต่ออดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู (Jair Bolsonaro) อดีตผู้นำบราซิลฝ่ายขวาจัดและพันธมิตรคนสำคัญของทรัมป์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับแผนการโค่นล้มการเลือกตั้งปี 2565
ด้านประธานาธิบดีลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) ของบราซิล ออกมาตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดียว่า ภาษีใด ๆ ต่อบราซิล จะถูกตอบโต้กลับ และเตือนถึงการแทรกแซงระบบยุติธรรมของประเทศ
2.อาเซียน-จีน ยืนยันกระชับความร่วมมือการค้าเสรีท่ามกลาง "ช่วงเวลาท้าทาย" เตรียมลงนามข้อตกลง "เวอร์ชัน 3.0" อย่างเป็นทางการ ภายในปีนี้
ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน - จีน ที่จัดขึ้นในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 58 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายมีการยืนยันกระชับความร่วมมือทางการค้าที่แข็งแกร่งขึ้น โดยจีนและชาติสมาชิกอาเซียนบรรลุข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่เรียกว่า "เวอร์ชัน 3.0" และจะมีการลงนามอย่างเป็นทางการภายในปลายปีนี้
นายโมฮาหมัด ฮาซัน (Mohamad Hasan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ อาเซียนและจีนจะสามารถเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นของทั้งสองฝ่าย ในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้และต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ อาเซียน ซึ่งเป็นกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออก นับเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยสมาชิกบางส่วนได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของจีน ขณะเดียวกันกลุ่มอาเซียนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน โดยตามข้อมูลของศุลกากรจีน ไตรมาสแรกของปี 2568 มีมูลค่าการค้ารวมสูงถึง 234,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 7.6 ล้านล้านบาท
3.อดีตประธานาธิบดี "ยุน ซอก-ยอล" ถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง หลังศาลแขวงกรุงโซล อนุมัติหมายจับ เพราะหวั่นอาจมีความพยายามทำลายหลักฐานในคดีประกาศกฎอัยการศึก
นายยุน ซอก-ยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง หลังศาลแขวงกรุงโซลมีคำสั่งอนุมัติหมายจับตามคำร้องขอของอัยการ ในการสืบสวนคดีที่อดีตผู้นำเกาหลีใต้ถูกกล่าวหาว่า ความพยายามประกาศกฎอัยการศึก เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เป็นการแสดงออกถึงการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและการใช้อำนาจในทางมิชอบ โดยศาลแขวงกรุงโซลเปิดเผยว่า ศาลอนุมัติคำร้องของอัยการเพราะมีความกังวลว่านายยุนอาจมีการหาทางทำลายหลักฐาน
ขณะที่นายยุนถูกนำตัวไปยังศูนย์กักกันกรุงโซล ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลราว 20 กิโลเมตร เมื่อช่วงต้นปีนี้ เขาเคยถูกคุมขังอยู่นาน 52 วัน ก่อนจะถูกปล่อยตัว เมื่อ 4 เดือนก่อน ด้วยเหตุผลทางเทคนิค ขณะที่ทีมทนายของอดีตประธานาธิบดียุนออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และวิจารณ์คำร้องขอหมายจับว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลอันควร
ทั้งนี้ นายยุน ซอก-ยอล ซึ่งเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยม กำลังเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาก่อกบฏ จากความพยายามประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
4. รัสเซียยิงขีปนาวุธ-ส่งโดรนหลายร้อยลำ โจมตีเมืองหลวงของยูเครน ตาย-เจ็บกว่า 10 คน
กองทัพรัสเซีย ได้ยิงขีปนาวุธและส่งโดรนหลายร้อยลำโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน ซึ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถสกัดไว้ได้บางส่วน
ทางเจ้าหน้าที่ของยูเครน เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 13 คน นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ในอะพาร์ตเมนต์ ยานพาหนะ โกดังสินค้า สำนักงาน และอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ซึ่งมีรายงานความเสียหายใน 6 เขตจากทั้งหมด 10 เขตของกรุงเคียฟ
ด้านประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 18 ลูก และโดรนประมาณ 400 ลำ โจมตียูเครน โดยมีเป้าหมายหลักคือกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน
5. เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินช่วยคนงานกว่า 30 คน ออกมาอย่างปลอดภัย หลังเกิดเหตุอุโมงค์ถล่ม ที่นครลอสแอนเจลิส ของสหรัฐฯ
สำนักงานดับเพลิงนครลอสแอนเจลิส ของสหรัฐฯ เผยว่า คนงานก่อสร้าง 31 คน ถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุอุโมงค์จัดการน้ำเสียของเขตวิลมิงตัน (Wilmington) ในนครลอสแอนเจลิส ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมา เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) ทำให้คนงานติดอยู่ภายใน โดยอุโมงค์ดังกล่าวมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.5 เมตร
ทางนายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิสกล่าวขอบคุณความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินที่เข้าไปปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที ทำให้คนงานทั้งหมดถูกช่วยเหลือออกมาได้ และทำให้คืนที่น่าหวาดหวั่นมีผลลัพธ์อย่างยอดเยี่ยม