11 ก.ค. 68 เมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถจักรยานยนต์ช่วงบริเวณถนนสายฉะเชิงเทรา-สุวินทวงศ์ โดยทาง พ.ต.ท.อัณณพ จันทร์ภักดี สารวัตรป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยสายตรวจรถจักรยานยนต์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเดินทางมาถึงช่วงสะพานต่างระดับ หน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฝั่งมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ พ.ต.ท.อัณณพ เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ ที่มี ส.ต.ต.กิตติศักดิ์ อินรอด เป็นคนขับ และมี ส.ต.ต.กัมพล จันทร์คงเดชา ซ้อนท้าย กำลังพยายามขับไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ สีเทา ทะเบียน 9 ขณ 3924 กรุงเทพมหานคร
โดย พ.ต.ท.อัณณพ ซึ่งขับรถกระบะได้ขับไล่ติดตามขึ้นมา พร้อมใช้โทรโข่งบอกให้รถจักรยานยนต์จอด แต่คนขับรถจักรยานยนต์กลับยิ่งเร่งเครื่องหนี ทำให้ พ.ต.ท.อัณณพ พยามยามขับรถขึ้นแซงหน้า เพื่อหวังจะบีบให้รถจักรยานยนต์ชะลอความเร็วลง จนมาถึงช่วงใกล้เคียงวัดต้นตาล ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขับปาดขวาออกช่วงท้ายรถกระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่ทันระวังว่ามีรถจักรยานยนต์สายตรวจตามประกบมาทางด้านขวา
ทำให้ท้ายรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่น ไปเกี่ยวเข้ากับล้อหน้าของรถจักรยานยนต์สายตรวจ จนทำให้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ล้มคว่ำไถลไปไกลกว่า 30 เมตร เป็นเหตุทำให้ ส.ต.ต.กิตติศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนหมดสติอยู่กลางถนน ส่วน ส.ต.ต.กัมพล ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน แต่อยู่ในอาการมึนงง จำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ ได้แต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ 2 วัยรุ่น ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน
ทำให้ พ.ต.ท.อัณณพ ต้องรีบวนรถกระบะย้อนกลับมาจอดขวางถนน เพราะเกรงว่าจะมีรถที่วิ่งอยู่ในเส้นทางไม่ทันระวังจะพุ่งมาทับซ้ำ จนอาจทำให้เกิดการสูญเสียได้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลพุทธโสธร เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ให้เข้ามาทำการช่วยเหลือ
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพยายามเรียก ส.ต.ต.กิตติศักดิ์ ให้รู้สึกตัวได้อีกครั้งและพบว่าที่ศีรษะมีบาดแผลขนาดใหญ่ จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร
จากการสอบถามนายนายวุฒิพงศ์ อายุ 17 ปี ให้การว่าตนเองได้นั่งซ้อนท้าย มากับนายเจษฎา อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยก่อนเกิดเหตุ ตนเองและกลุ่มเพื่อนรถจักรยานยนต์อีกประมาณ 3-4 คัน ได้วิ่งมาตามถนน จนตนเองหันไปเห็นว่ามีรถตำรวจตามหลังมา จึงได้บอกกับนายเจษฎา ซึ่งตอนแรกก็คิดว่านายเจษฎา จะจอด แต่คงเป็นเพราะรถท่อดัง ทำให้นายเจษฎา พยายามเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี และพอช่วงที่รถกระบะตำรวจแซงขึ้นหน้าไป เพื่อจะพยายามบีบทางให้รถจักรยานยนต์จอด นายเจษฎา ก็เร่งเครื่อง ปาดออกไปทางด้านขวาช่วงท้ายของรถกระบะตำรวจ และหลังจากนั้นรถจักรยานยนต์ก็ล้มคว่ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถจักรยานยนต์ของกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน ไม่รู้หายไปไหนหมด
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รีบเดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เก็บหลักฐานและรายละเอียดให้ครบ พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพราะเกรงว่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาด้วยกันกับวัยรุ่นที่บาดเจ็บ อาจจะไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วตามมาก่อเหตุที่โรงพยาบาลได้