วันนี้ (11 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ได้สั่งการให้นายอนุชา ภู่เปี่ยมศักดิ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองบัวลำภูพร้อมกำลัง เข้าจับกลุ่มนายสุริยา อายุ 41 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด , สำเนาเงินล่อซื้อหนึ่งฉบับ , โทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง และนายคมเดช อายุ 38 ปี ของกลางยาบ้า 2,081 เม็ด ,โทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง และผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้งสองคน ที่ ต.นามะเฟือง อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
สืบเนื่องชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายสุริยา พี่ชาย มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงาน จึงได้ให้สายลับเข้าไปล่อซื้อยาบ้ากับนายสุริยา จำนวน 2 เม็ด ในราคา 100 บาท โดยได้ทำบันทึกธนบัตรชนิด 100 บาท ไว้ เพื่อใช้ในการล่อซื้อประกอบหลักฐาน
พอสายลับส่งสัญญาณเจ้าที่ฝ่ายปกครองฯ จึงเข้าจับกุม และในขณะนั้นนายคมเดช ซึ่งเป็นน้องชาย เห็นพี่ชายโดนจับกุม จึงได้วิ่งไปจะปิดประตูข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าชาร์จ ตรวจค้นในบ้านและในรถยนต์พบยาบ้าทั้งหมด 2,081 เม็ด ซุกซ่อนอยู่
โดยนายคมเดช ให้การว่ายาบ้าทั้งหมดที่พบเป็นของชายชาวลาว ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ตนเองจะมีหน้าที่เป็นนักบินไปรับยา และนำยาบ้าไปส่ง โดยจะไปรับอยู่ที่บริเวณริมถนนสายรอบเมือง จ.หนองบัวลำภู จะมีคนนำมาวางไว้ ล่าสุดไปรับยาบ้ามาเมื่อวันที่ (5 ก.ค.68) ที่ผ่านมา จำนวน 5 มัด (ประมาณ 10,000 เม็ด) และนำไปขายให้กับผู้ซื้อที่อำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น 3 มัด (ประมาณ 6,000 เม็ด) และที่อำเภอสีชมพู 1 มัด(ประมาณ 2,000 เม็ด) โดยตนได้รับค่าจ้างมัดละ 1,000 บาท
ส่วนที่เหลืออีก 1 มัด ยังไม่ได้ส่งมอบให้ผู้ซื้อ จึงถูกจับกุมเสียก่อน ในโทรศัพท์มือถือที่ได้จากนายคมเดชฯ พบข้อมูลว่ามีการซื้อขายยาเสพติดกับลูกค้าและกลุ่มผู้เสพทั้งชายและหญิงจำนวนมาก และรับสารภาพว่าเคยติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง ในคดียาเสพติด
จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 พี่น้องว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งโดยผิดกฎหมาย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง(ยาบ้า)โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยฝ่าฝืนกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป