นิพิฏฐ์ ยกฎีกาขึ้นถามเห็นด้วยหรือไม่ ควรออก กม.ลงโทษจำคุก สงฆ์-ฆราวาสที่เสพเมถุน ชี้ความพยายามคุ้มครองพุทธศาสนาด้วยการลงโทษภิกษุผู้เสพเมถุนมีมานานแล้ว แต่ยังไม่มีกฎหมายบังคับจึงลงโทษไม่ได้
วันนี้ (11 ก.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ให้ความเห็นผ่านพื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ประชาชนคงตื่นตระหนกกับพฤติกรรมของสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ที่ล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเสพเมถุนกับหญิงคนหนึ่ง ตนจึงมีความคิดว่า ควรมีกฎหมายบังคับให้สอดคล้องกับพระธรรมวินัย ด้วยการลงโทษจำคุกภิกษุและฆราวาสผู้เสพเมถุน
“ภิกษุรูปใดไม่อาจอดทน อดกลั้นในเรื่องนี้ได้ก็ควรสึกออกมาก่อนที่จะทำให้ศาสนามัวหมอง”
นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า ความจริงการพยายามลงโทษภิกษุผู้เสพเมถุน ได้มีการคิดกันมานานแล้ว กล่าวคือ พนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี เคยฟ้องภิกษุผู้เสพเมถุน ด้วยเหตุผลว่า ถือว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา แต่ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2505 (ประชุมใหญ่) ด้วยเหตุที่ยังไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ จึงยังไม่เป็นความผิด เห็นได้ว่า ความพยายามคุ้มครองพุทธศาสนาด้วยการลงโทษภิกษุผู้เสพเมถุนมีมานานแล้ว แต่ยังไม่มีกฎหมายบังคับจึงลงโทษไม่ได้
เมื่อสงฆ์ละเมิดพระธรรมวินัยด้วยการเสพเมถุนมากขึ้น จึงเห็นควรทบทวนกฎหมายเรื่องนี้ ด้วยการออกกม.ลงโทษจำคุกสงฆ์และผู้เสพเมถุนกับสงฆ์ ท่านใดเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ผมอยากฟังความเห็น เผื่อ สส.ท่านใด ผ่านเข้ามาอ่านโพสต์นี้จะได้นำไปพิจารณาต่อ
โพสต์ผู้ที่เข้ามาสอบถามเพราะคิดว่ามีการดำเนินคดีสีกากับพระชั้นผู้ใหญ่ นายนิพิฏฐ์ ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์ ว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ เพราะเป็นความสมัครใจทั้งสองฝ่าย พระก็เป็นเพียงผิดวินัยปาราชิก ส่วนสีกาก็ไม่ผิดอะไร