ออกจากโรงพยาบาลแล้ว สุนัขไซบีเรียนฯ เพศผู้ ที่ป่วยหลายโรค จนอยู่ในสภาพผอมโซ ด้านพระครูอ๊อด อวยพรให้มีชีวิตใหม่ และให้ชื่อใหม่ว่า “ไดมอนด์”
จากกรณีมูลนิธิ ดิอาร์ค ในพระราชูปถัมภ์ ได้รับดูแลเกี่ยวกับ อาการป่วยของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ เพศผู้ มาจากหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยสุนัขอยู่ในสภาพอ่อนแรง ไม่สามารถลุกยืนหรือเดินได้ด้วยตนเอง และไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ทีมสัตวแพทย์ เร่งให้การรักษา พบว่าสุนัขมีภาวะความผิดปกติของระบบประสาทที่เรียกว่า Cognitive Dysfunction มีลักษณะคล้ายกับภาวะอัลไซเมอร์ในมนุษย์ ส่งผลให้มีพฤติกรรมร้องตลอดเวลา เดินวนซ้ำซาก เดินชนสิ่งกีดขวาง และไม่สามารถถอยหลังได้ตามปกติ
นอกจากนี้ยังพบโรคกระดูกสันหลังเสื่อมในหลายตำแหน่ง ได้แก่ บริเวณกระดูกสันหลังช่วง T2–T6, T12–T13 และ T13–L1 ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและเคลื่อนไหวศีรษะได้จำกัด อีกทั้งยังตรวจพบการติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือดชนิด Ehrlichia canis ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลต่อระบบเลือดและภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้สุนัขมีอาการอ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรมอย่างชัดเจน เบื้องต้นได้รักษาตามอาการ โดยให้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะสำหรับการกำจัดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือด พร้อมทั้งวิตามินบำรุงเลือด วิตามินบีเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร ยาลดอาการเครียดและวิตกกังวล รวมถึงยาบำรุงระบบประสาทและตับ เพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม
ด้านนายบัณฑิต หมื่นเรือคำ ประธานมูลนิธิ ดิอาร์ค เผยว่า แม้สุนัขจะมีอายุค่อนข้างมาก แต่หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งด้านการรักษาและการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถยืดอายุขัย และคุณภาพชีวิตของสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ โดยเฉพาะในกลุ่มสุนัขพันธุ์ที่มีแนวโน้มเกิดโรคเฉพาะทางเมื่ออายุมากขึ้น
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (11 ก.ค.68) ทีมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ ดิอาร์ค ได้เดินทางไปรับตัวสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ตัวดังกล่าว กลับมาบริบาลที่ศูนย์พักพิงของมูลนิธิ พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “น้องไดมอนด์” เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและอบอุ่น โดยได้เดินทางมาพบกับ พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ รับพรเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ อีกทั้งยังรับมอบอาหารเม็ดสำเร็จรูป เพื่อให้ความอิ่มท้องแก่ สุนัขและแมวที่อาศัยภายในมูลนิธิฯ
มูลนิธิ ดิอาร์ค ยังคงดำเนินภารกิจในการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งหรือประสบปัญหาด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งความเมตตา โดยการสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ หรือแจ้งเบาะแสการพบเห็นสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อให้เพื่อนร่วมโลกเหล่านี้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง
