สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 11 ก.ค. 2568

สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 11 ก.ค. 2568

View icon 323
วันที่ 11 ก.ค. 2568 | 18.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
OPEN WORLD - สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 11 ก.ค. 2568


“รูบิโอ” ยันไม่ทอดทิ้ง พร้อมเจรจาการค้ากับอาเซียน

วานนี้ (10 ก.ค.) นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 58 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่ทอดทิ้งและยังคงให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และการเดินทางมาเยือนอาเซียนเป็นครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ยังเปิดเผยด้วยว่า นายรูบิโอพร้อมจะหารือเรื่องการค้ากับอาเซียน และย้ำถึงความจำเป็นในการปรับสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ แม้ว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนถึง 7 ประเทศ ได้รับจดหมายแจ้งเตือนจากประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในอัตราสูง 25-40 % ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้


บราซิลประท้วงเผาหุ่น “ทรัมป์” หลังถูกขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 50 %

จากกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากบราซิลในอัตราสูงถึง 50 % โดยกล่าวหาว่า บราซิลโจมตีบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และรัฐบาลบราซิลดำเนินการ "ล่าแม่มด" ต่ออดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู (Jair Bolsonaro) อดีตผู้นำฝ่ายขวาจัดและพันธมิตรคนสำคัญของทรัมป์นั้น วานนี้ (10 ก.ค.) ชาวบราซิลจำนวนมากรวมตัวประท้วง "ทรัมป์" และแสดงการสนับสนุนประธานาธิบดี ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) ที่นครเซาเปาโล และมีการเผาหุ่นจำลองของ "ทรัมป์" ด้วย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ออกมาตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดียว่า ภาษีใด ๆ ต่อบราซิล จะถูกตอบโต้กลับ และเตือนถึงการแทรกแซงระบบยุติธรรมของประเทศ  ล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งจดหมายยืนยันแล้วว่า แคนาดา ประเทศเพื่อนบ้าน จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 35 % ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป และยืนยันด้วยว่าไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายแจ้งทุกประเทศ เพราะประเทศที่ยังไม่ได้รับจดหมายจะถูกเรียกเก็บภาษี 20 % หรือ 15 % ขึ้นอยู่กับการเจรจา


“สม รังสี” แฉ “ตระกูลฮุน” หนุนแก๊งคอลเซนเตอร์

นายสม รังสี (Sam Rainsy) อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กอ้างรายงานของ "แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล" (Amnesty International) ที่มีการเก็บข้อมูลนาน 18 เดือน ระบุว่า มีผู้คนกว่า 120,000 คน ถูกคุมขังอยู่ในศูนย์สแกมเมอร์ทั่วกัมพูชา โดยพวกเขาถูกบังคับใช้แรงงานเยี่ยงทาสในสภาพโหดร้ายทารุณ จากการให้ปากคำของผู้รอดชีวิต 58 คน ได้ชี้ตำแหน่งอาคารลักษณะเหมือนคุกที่มีการควบคุมเข้มงวดอย่างน้อย 53 แห่ง ซึ่งเหยื่อถูกค้ามนุษย์ ถูกทรมานด้วยการช็อตไฟฟ้าและทุบตี และถูกบังคับให้หลอกลวงคนทางออนไลน์ให้กับเครือข่ายอาชญากรจีนที่ทรงอิทธิพล

เหยื่อเหล่านี้ไม่ได้มีแต่คนกัมพูชา แต่รวมถึงคนไทย, เวียดนาม, อินเดีย, ฟิลิปปินส์ และชาติอื่น ๆ ซึ่งเพื่อเป็นการตอบโต้ ทางการไทยและเวียดนามเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือแล้วเพื่อปลดปล่อยพลเมืองของตนเอง

กลุ่มอาชญากรเหล่านี้เป็นผู้บริหารงานกาสิโน ฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์ และตั้งบริษัทบังหน้าทั่วกัมพูชา พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากกลุ่มการเมือง "ตระกูลฮุน" โดยมาเฟียชาวจีนจำนวนมากถือหนังสือเดินทางกัมพูชา และมักถูกจับกุมขณะเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ หรือไทย

แก๊งอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย สร้างรายได้ปีละหลายพันล้าน หล่อเลี้ยงเงินให้ "ตระกูลฮุน" และพันธมิตร ด้วยเหตุนี้ การปราบปรามมาเฟียชายแดนของไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงทำให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรงจากสมเด็จฯ ฮุน เซน และความตึงเครียดตามแนวชายแดนทวีความรุนแรงขึ้น


เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ นำเครื่องบินทิ้งระเบิด "B-52" ร่วมซ้อมรบ

วันนี้ (11 ก.ค.) กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เผยภาพวิดีโอขณะร่วมซ้อมรบทางอากาศกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ B-52 และเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ร่วมบินเหนือน่านน้ำสากล

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐฯ ถูกส่งมายังคาบสมุทรเกาหลีเพื่อฝึกซ้อมรบ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อยกระดับการยับยั้งภัยคุกคามจากนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ

ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสามประเทศได้เข้าร่วมการประชุมประจำปี ที่กรุงโซล โดยกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ระบุว่า พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือไตรภาคีในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่เกิดจากเกาหลีเหนือ ทั้งในอินโด-แปซิฟิก และภูมิภาคอื่น ๆ

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้พัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคง เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากพัฒนาการทางทหารของเกาหลีเหนือ และความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย


“แอร์เมส เบอร์กิน” ทุบสถิติประมูลกระเป๋า กว่า 300 ล้านบาท

บริษัทจัดการประมูลชื่อดัง นำกระเป๋าถือแบรนด์เนม "แอร์เมส เบอร์กิน" ดั้งเดิม ซึ่งผลิตออกมาในปี 2528 ออกมาประมูลที่กรุงปารีส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 ก.ค.) จากราคาเริ่มต้นประมูลที่ 1 ล้านยูโร หรือประมาณ 38 ล้านบาท ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายจะมีผู้ประมูลไปด้วยราคาบวกค่าธรรมเนียมสูงถึง 8.6 ล้านยูโร หรือกว่า 327 ล้านบาท ทุบสถิติการประมูลกระเป๋าถือราคาแพงที่สุดในโลก

ทั้งนี้ กระเป๋าใบดังกล่าวมีที่มาที่ไปน่าสนใจ เนื่องจากเมื่อปี 2527 เจน เบอร์กิน (Jane Birkin) นักแสดงหญิงลูกครึ่งอังกฤษ-ฝรั่งเศส ได้พบกับ ฌอง-หลุยส์ ดูมาส์ (Jean-Louis Dumas) ซีอีโอของแอร์เมส บนเครื่องบิน และบ่นกับเขาว่าเธออยากได้กระเป๋าที่ใหญ่กว่าและใช้งานได้จริง ๆ จากนั้น แอร์เมสจึงผลิตกระเป๋า "เบอร์กิน" ใบแรกให้เธอใช้ และเธอก็ใช้มันมานานเกือบ 10 ปีก่อนจะบริจาคกระเป๋าใบนี้ให้นำไปประมูลหาเงินช่วยเหลือโครงการโรคเอดส์ เมื่อปี 2537 จากนั้นก็กลายเป็นสินค้าแฟชั่นซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดของนักสะสม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง