ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยัน จะเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก 30% เริ่ม 1 สิงหาคมนี้ ด้าน EU พร้อมตอบโต้กลับ
วันนี้ (13 ก.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อวานนี้ (12 ก.ค. 68) ว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทั้งสหภาพยุโรปและเม็กซิโก ในอัตรา 30% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป
โดย “โดนัลด์ ทรัมป์” ให้เหตุผลว่า สหภาพยุโรปได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ มากเกินไป ส่วนเม็กซิโกมีความพยายามน้อยเกินไป ในการสกัดกั้น การลักลอบนำยาเสพติด "เฟนทานิล" เข้าไปยังสหรัฐฯ และหากทั้งสองประเทศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ สหรัฐฯ จะตอบกลับด้วยการขึ้นภาษีอัตราที่ใกล้เคียงกัน โดยเพิ่มจากภาษี 30% ที่ได้ประกาศไปแล้ว
หลังจากการประกาศของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทำให้ทางประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า สหภาพยุโรปอาจใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้
ทางประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับคำประกาศของ “ทรัมป์” และเสนอว่าหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ EU ควรเตรียมมาตรการตอบโต้ให้เร็วขึ้น
ขณะที่นายกรัฐมนตรี จอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี เชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรมได้ และการจุดชนวนสงครามการค้านั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
ด้าน นางเคลาเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า มันคือข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรม เราหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนวันที่ 1 สิงหาคมนี้
