สุชาติ จี้ พศ. ทำงานเชิงรุก ตรวจทุกจังหวัด ปราบก่อนบานปลาย

สุชาติ จี้ พศ. ทำงานเชิงรุก ตรวจทุกจังหวัด ปราบก่อนบานปลาย

View icon 87
วันที่ 14 ก.ค. 2568 | 18.34 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปราบก่อนบายปลาย “สุชาติ“ ร้อนใจเข้ากราบนมัสการเจ้าคณะหนใหญ่ตะวันออก รับแนวทางสังคายนาวงการสงฆ์ สั่ง พศ. อย่ารอตำรวจทำคดี ต้องทำงานเชิงรุกไม่ใช่ทำงานเชิงรับ ตรวจทุกจังหวัด วัดไหนมีปัญหาต้องย้อนดูธุรกรรม

วันนี้ (14 ก.ค.68) นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ อ่านว่า สะหนิด ชะวะนะปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะหนใหญ่ตะวันออก และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อรับแนวทางปฏิบัติในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

จากนั้น นายสุชาติให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม ได้ประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหา และมอบหมายให้ตำรวจที่ไปดำเนินการจับกุม อย่างน้อยต้องรายงานไปที่เจ้าคณะหนหรือพระผู้ใหญ่ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับพระที่ปฏิบัติมิชอบ จะทำวิธีการใดที่จะแก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2505 หรือจะยกร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ หลักการอยู่ที่จะดำเนินการอย่างไรที่จะเอาผิดสีกาที่ไปเสพเมถุน กับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิด ซึ่งขอให้เร็ว ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์แบบนี้จะกระทบศรัทธาของประชาชน พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็จะเกิดเรื่องอื่น ๆ ขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ แบบนี้ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเอาผิดสีกากอล์ฟ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ฐานผู้ใดที่ทำการดูหมิ่นศาสนา นายสุชาติ กล่าวว่า ขอนำเรื่องนี้ไปพิจารณาก่อน และได้มอบนโยบายให้สำนักพระพุทธศาสนาไปแล้ว จะต้องนำตัวสีกากอล์ฟมาดำเนินการสอบสวน

ระหว่างให้สัมภาษณ์นายสุชาติได้หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ สั่งการให้ไปศึกษาการเอาผิดตามมาตรา 206 ซึ่งอะไรที่สามารถกระทำการได้อย่างรวดเร็ว จะต้องนำผู้กระทำความผิดมาให้ได้ แต่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ ไม่ว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือหลอกลวง รวมไปถึงความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตนเพิ่งจะมารับตำแหน่งได้ไม่ถึงสัปดาห์ ก็มีกรณีนี้เป็นเรื่องรับน้อง ยอมรับว่ากังวลมาก จึงได้มาขอคำแนะนำกับท่านสมเด็จฯ ทั้ง 2 รูป 

นายสุชาติ กล่าวว่า ต้นเหตุที่เกิดปัญหากระบวนการหลอกพระ มาจากการที่พระมีเงิน มีทรัพย์เยอะ หลอกง่ายที่สุด ใช้จ่ายโดยไม่มีการควบคุม เมื่อพระถูกแบล็กเมล์หน่อยก็ต้องโอนเงินให้ พฤติการณ์นี้ทำเป็นขบวนการ วัดใดที่มีปัญหาสำนักพระพุทธฯ ต้องย้อนดูธุรกรรม

“เคยให้นโยบายกับสำนักพุทธฯ ไว้ว่าต้องทำงานเชิงรุกไม่ใช่ทำงานเชิงรับ ทุกวันนี้ให้ตำรวจไปจับอย่างเดียว หลังจากนี้จะต้องไปสอดส่องดูพฤติกรรมของพระในทุกวัด ทุกพื้นที่ ร่วมกับชาวบ้านและชุมชน ไม่ใช่รอให้ตำรวจทำคดีอย่างเดียว ต้องไปปราบก่อนเหตุบานปลาย ควบคู่ไปกับการแก้กฎหมาย ครอบคลุมไปถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ ที่มีการล่วงละเมิดทางเพศทั้งหญิงและชาย ให้ผิดวินัยสงฆ์และคดีอาญา” นายสุชาติ ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง