ค่ำวานนี้ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นประธานในงาน "ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา วัง" (ภาคประชาชน) จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทอดพระเนตรกิจกรรมต่าง ๆ
งาน "ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา วัง" (ภาคประชาชน) รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร รุ่นที่ 3 จัดขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด รุ่นที่ 4 จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรุ่นที่ 5 จะจัดขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสนองพระราชดำริ ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
โอกาสนี้ พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) และคณะพระสงฆ์ผู้บรรยายธรรม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ และหลักการโครงการ "ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา วัง" (ภาคประชาชน)
โดย ธรรมนาวา "วัง" คือแนวทางหนึ่งซึ่งได้น้อมนำหลักธรรมอันประเสริฐที่พระพุทธองค์ทรงประกาศไว้ มาศึกษาและปฏิบัติด้วยตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธธรรมว่า เป็นเครื่องชี้ทางสว่างแห่งปัญญา อันจะนำมาซึ่งความพ้นทุกข์ ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติตน 7 ขั้นตอน เป็นลำดับการเรียนรู้ทางแห่งการดับทุกข์ ได้แก่ ขั้นที่ 1 ระลึกถึงพระรัตนตรัย, ขั้นที่ 2 ทักอารมณ์, ขั้นที่ 3 ท่องธาตุกัมมัฏฐาน 4, ขั้นที่ 4 พิจารณาร่างกาย 6 ขั้นตอน, ขั้นที่ 5 การท่องขันธ์ 5 และแยกขันธ์ 5, ขั้นที่ 6 เรียนรู้ขันธ์ 5 หรือดูขันธ์ 5 เกิด-ดับ จับอารมณ์ลงขันธ์, และขั้นที่ 7 พิจารณาขันธ์ 5 ลงอริยสัจ 4 ซึ่งแต่ละขั้นตอนเปรียบเสมือนยา 7 เม็ด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่น้อมนำไปปฏิบัติประสบหนทางแห่งความพ้นทุกข์ มีหลักธรรมเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เข้าใจอริยสัจ 4 และใช้มรรค 8 เพื่อการดับทุกข์ โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นการปูทางสู่การตื่นรู้ที่เน้นการปฏิบัติ 2 ขั้นตอนแรก หรือ ยา 2 เม็ดแรก คือ ระลึกถึงพระรัตนตรัย และทักอารมณ์
ในการนี้ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลผลการน้อมนำหลักปฏิบัติธรรมพระราชทาน ธรรมนา "วัง" ที่ได้ไปปรับใช้ชีวิตประจำวัน นำไปสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์ แล้วทอดพระเนตรการขับร้อง "เพลงดุจดั่งสายฟ้า" และ "เพลงทางที่เดินคนเดียว" เสร็จแล้ว พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) พร้อมด้วยคณะสงฆ์และประชาชน ประกาศพระปริตรถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระราชฐานะพุทธมามกะ และองค์อัครศาสนูปถัมภก จึงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนเป็นผู้เจริญในธรรม อันจะเกื้อกูลให้สังคมและชาติบ้านเมืองมีความผาสุกมั่นคง
หลังเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินจากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41
เวลา 22.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ในการนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่ แม่บ้านทหาร และแม่บ้านตำรวจ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ะลึก ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร โดยมีข้าราชการ และราษฎร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จ