ลุงสมหมาย อดีตทหารพราน ชกหน้าทหารกัมพูชา ติดต่อทนายโทบิตะให้ช่วยเรื่องคดีแล้ว เจ้าตัวรับกังวลเรื่องคดี

ลุงสมหมาย อดีตทหารพราน ชกหน้าทหารกัมพูชา ติดต่อทนายโทบิตะให้ช่วยเรื่องคดีแล้ว เจ้าตัวรับกังวลเรื่องคดี

View icon 310
วันที่ 15 ก.ค. 2568 | 07.52 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลุงสมหมาย อดีตทหารพราน ชกหน้าทหารกัมพูชา ติดต่อทนายโทบิตะให้ช่วยเรื่องคดีแล้ว เจ้าตัวรับกังวลเรื่องคดี กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เผยก่อเหตุเพราะรู้สึกอึดอัดใจ ทราบอยู่แล้วว่าจะต้องถูกดำเนินคดี พร้อมบผลของการกระทำ

วันนี้ (14 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวชายชุดดำก่อเหตุชกต่อยทหารกัมพูชา ที่ร่วมกันอำนวยความสะดวก ตัวปราสาทร่วมกับทหารไทย ในพื้นที่ตัวปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนพากันวิ่งหนีเข้ามายังเขตไทยและทหารจับไว้ได้ตามที่ปรากฏตามคลิปในโลกโซเชียลฯ เมื่อวันที่ 13  ก.ค.68 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.20 น. ที่ผ่านมา ซึ่งจากผลตรวจสอบพว่า ชายรายดังกล่าวเป็นอดีตทหารพราน เมื่อตรวจสอบเพื่อเติมทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน หรือลุงสมหมาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึก จ.สมุทรสาคร

ขณะเดียวกันนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมไม่สนับสนุนความรุนแรงนะครับ แต่ถ้าชายชุดดำที่ชกทหารกัมพูชา ถูกดำเนินคดีผมยินดีให้การช่วยเหลือทางกฎหมาย” ต่อมาทนายได้โพสต์คลิปแลระบุอีกว่า “ทนายโนบิ พร้อมให้การช่วยเหลือทางคดีกรณีชายชุดดำชกทหารกัมพูชา” ถ้าหากชายชุดดำดังกล่าวถูกดำเนินคดีและไม่มีทนายความ พี่ชุดดำถ้าฟังอยู่ติดต่อผมได้ผมทนายโนบิ ผมยินดีที่จะเป็นทนายให้กับพี่ ทั้งนี้โพสต์ข้อความและคลิปมีคนเข้ามาแสดงความเห็นด้วยและแชร์ออกไปหลายครั้ง

ล่าสุด 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.00 น.ลุงสมหมาย ชายชุดดำที่ชกหน้าทหารกัมพูชา และเคยเป็นอดีตทหารพรานได้ติดต่อโทรศัพท์มายังทนายโนบิตะแล้ว โดยลุงสมหมายได้พุดคุยกับทนายโนบิตะทางโทรศัพท์ พร้อมเปิดใจบอกว่า ตอนนี้ผมรู้สึกมีความกังวลใจ หลังทราบว่า เมื่อเดินทางมาถึงที่ จ.สมุทรสาคร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาหาแจ้งว่า จะขอเชิญให้เดินทางกลับมาที่สถานีตำรวจ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมาย คุณลุงสมหมาย จึงมีความรู้สึกกังวลว่าอาจจะได้รับความไม่เป็นธรรม เพราะตอนแรกเห็นว่าจะไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่สุดท้ายกลับมีการโทรแจ้งให้กลับไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งคุณลุงสมหมาย มีความกังวลใจอย่างมาก จึงโทรมาขอปรึกษาและขอให้ทนายโนบิตะและทีมทนายความให้การช่วยเหลือเรื่องคดี

คุณลุงสมหมาย อดีตทหารพราน บอกอีกว่า สาเหตุที่ก่อเหตุชกหน้าทหารกัมพูชา เนื่องมาจากว่ารับไม่ได้และรู้สึกอึดอัดใจ กับการกระทำของทหารกัมพูชาที่ทำกับทหารไทย ตนในฐานะเคยเป็นอดีตทหารผ่านศึกและพร้อมจะปกป้องชาติศาสนาแผ่นดินเกิด จึงเดินทางไปที่ปราสาทตาเมืองธม ตัดสินใจที่จะก่อเหตุในวันดังกล่าว แม้ว่าทราบอยู่แล้วว่าจะต้องถูกดำเนินคดี ก็พร้อมที่จะรับผลของการกระทำ เราเสียเขาพระวิหารไปแล้ว จะยอมเสียอีกหรือ ผมทำไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย ไม่อยากให้ทหารกัมพูชาพูดดูถูกแบบนี้ โดยลุงสมหมายจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา วันที่ 19 ก.ค.68

ด้านทนายโนบิตะ บอกกับนักข่าวว่า คดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อน เป็นการทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 แม้ความผิดตามมาตรา 391 จะมีโทษไม่รุนแรงนัก แต่ก็ถือเป็น "ความผิดอาญาแผ่นดิน" ที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ทำให้ไม่สามารถยอมความ เพื่อให้คดีระงับได้ แม้ผู้เสียหายจะตกลงยอมความกันแล้ว พนักงานสอบสวนก็ยังสามารถดำเนินคดีต่อไปได้จนกว่าคดีจะขาดอายุความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาคุณลุงสมหมายตามขั้นตอน

ทั้งนี้ทนายโนบิตะ ฝากถึงทหารกัมพูชาคู่กรณี หากประสงค์จะดำเนินคดี หรืออยากจะเรียกค่าเสียหายก็สามารถที่จะเดินทางมาแจ้งความได้ที่ประเทศไทย ตำรวจไทยและศาลไทยยินดีให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง