เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวาน (15 ก.ค.) รัฐบาลประสานเสียงหนักแน่นว่า "ทีมไทยแลนด์" ไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ใช้ "ฐานทัพเรือทับละมุ" แลกกับการลดอัตรากำแพงภาษี
รัฐบาลปัดดีลสหรัฐฯ ปมฐานทัพเรือ
โดยเฉพาะ "รักษาราชการแทนนายกฯ" ที่บอกว่า ไม่สบายใจหลังมีสื่อฯ บางสำนักรายงานข่าวจนเข้าใจผิด
เป็นคำยืนยันจากนายภูมิธรรมฯ ที่บอกว่าไม่เคยคุยกับสหรัฐฯ ในเรื่องดังกล่าว และย้ำว่าพูดอย่างชัดเจนไปแล้ว แต่กลับมีการรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน จนทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ
นอกจากนี้ยังมีคำยืนยันจาก พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่ใช่เงื่อนไขในการเจรจากำแพงภาษี
แนะเจรจาภาษี 2 ระดับ ต่ำสุด 20 %
สำหรับข้อเสนอเพื่อเปิดเจรจาสหรัฐฯ หวังลดกำแพงภาษีลงจาก 36 เปอร์เซ็นต์ยังอยู่ระหว่างหาแนวทางที่เหมาะสม
แต่มีข้อเสนอจากภาคเอกชนอย่าง นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า หากอัตราภาษียังคงอยู่ที่ 36 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้อุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบมาก
จึงเสนอรัฐบาลเจรจาภาษีสหรัฐฯ โดยให้มีอัตราภาษี 2 ระดับ คือ หากเป็นสินค้าของบริษัทสหรัฐฯ ที่ผลิตในไทย ทั้งชิปต่าง ๆ หรือ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ หรือสินค้าเกษตร อาจกดอัตราภาษีให้อยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือ 25 เปอร์เซ็นต์
ส่วนสินค้าสวมสิทธิ์ หรือสินค้าที่มองว่าไทยเป็นทางผ่าน หรือ สินค้าจากจีนที่ทางที่นำมาประกอบในไทย (Transshipment) ก็ให้คิดอัตราภาษี 40 เปอร์เซ็นต์ (เท่ากับเวียดนาม) ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์ในระยะยาวมากกว่าการยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ