รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ชี้ หลักฐานแช็ตคุยกัน ระหว่างสีกากอล์ฟ กับ เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่ต้องลาสิกขา เป็นเพียงอาบัติสังฆาทิเสส

รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ชี้ หลักฐานแช็ตคุยกัน ระหว่างสีกากอล์ฟ กับ เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่ต้องลาสิกขา เป็นเพียงอาบัติสังฆาทิเสส

View icon 216
วันที่ 16 ก.ค. 2568 | 10.58 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ชี้ หลักฐานแช็ตคุยกัน ระหว่างสีกากอล์ฟ กับ เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่ต้องลาสิกขา เป็นเพียงอาบัติสังฆาทิเสส สามารถออกจากอาบัติได้ โดยเข้าปริวาสกรรม ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้

16 กรกฎาคม 2568 นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่าหลังพูดคุยพระปวรเมธี หรือ เจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เย็นวานนี้ มีมติให้พักตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสและรองเจ้าคณะภาค 15 ขณะนี้เป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาก่อน จนกว่าการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการที่เจ้าคณะใหญ่แต่งตั้งขึ้นจะแล้วเสร็จ ส่วนพระปวรเมธีตอนนี้ยังไม่ลาสิกขา ยังสามารถติดต่อได้อยู่ แต่ไปจำพรรษาอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน ซึ่งยินดีที่จะให้ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลอยู่ตลอด และยินดีรับมติของคณะกรรมการฯ ที่เจ้าคณะใหญ่ได้แต่งตั้งขึ้น และส่วนตัวของพระปวรเมธี มีความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินของวัด มีเพียงแช็ตที่พูดคุยกับสีกากอล์ฟ

และนอกจากการกระทำดังกล่าว แม้จะอยู่ในอาบัติสังฆาทิเสส ตามหลักการหมายความว่าท่านไม่ใช่พระภิกษุหนุ่มธรรมดา แต่ดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการระดับสูง เป็นถึงรองเจ้าคณะภาค และผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พระอารามหลวง กรณีมีข้อความแช็ตในลักษณะฟีลแฟน พระผู้ใหญ่ก็ได้ตำหนิว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมกับพระหนุ่มเณรน้อย แม้จะเป็นอาบัติสังฆาทิเสสก็ตาม โดยหลังจากนี้พระเถระผู้ใหญ่จะนำประเด็นจริยาพระสังฆาธิการหรือหลักปฏิบัติที่คล้ายวินัยของข้าราชการมาพิจารณาเพิ่มเติม

ส่วนพระปวรเมธีมีสิทธิ์ที่จะถูกถอดจากทุกตำแหน่งหรือไม่เพื่อเป็นการลงโทษ นายบุญเชิด ระบุว่า อยู่ที่คณะกรรมการฯ ว่าจะลงโทษแบบไหน แต่ตอนนี้สมณศักดิ์เดิมยังคงอยู่ ยกเว้นแต่ว่าหากมีข้อหาที่ ประพฤติร้ายแรงก็จะใช้มติมหาเถระสมาคม แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง หากมีหลักฐานอะไรที่มากกว่านี้ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน

ส่วนหลักฐานแชตที่ปรากฎออกมาเป็นหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้พระปวรเมธีลาสิกขาได้หรือไม่ นายบุญเชิด ระบุว่า หากดูจากการพูดคุยในแช็ตพระปวรเมธี ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เป็นอาบัติหนักประเภทหนึ่งในพระวินัยของพระภิกษุสงฆ์ รองลงมาจากอาบัติปาราชิก ซึ่งหากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจะมีโทษถึงขั้นปาราชิก แต่หากเป็นเพียงข้อความดังกล่าวถือเป็นสังฆาทิเสสที่สามารถออกจากอาบัติดังกล่าวได้โดยการเข้าไปปริวาสกรรมหรืออยู่กรรม ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้